บทบาทของเหงือก

เหงือกเป็นเนื้อเยื่ออ่อน ทำหน้าที่รองรับฟันโดยรอบ เหงือกที่สุขภาพดีจะโอบรอบฟันอย่างแนบสนิท เหงือกร่นคือการที่เหงือกเลื่อนตัวออกจากฟัน ทำให้ฟันดูยาวขึ้นกว่าปกติ แต่เหงือกร่นไม่ใช่อาการเดียวที่แสดงว่าเริ่มมีปัญหา ลองสังเกตอาการเสียวฟัน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องไปพบทันตแพทย์แล้ว นี่คือสิ่งที่แสดงว่าเหงือกอักเสบ

• เหงือกบวม ระบม หรือมีสีแดงช้ำ
• เลือดออกง่าย
• มีกลิ่นปาก

อาการที่พบเมื่อเหงือกร่น

การทราบอาการของเหงือกร่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ต่อจากนี้ควรทราบว่าอะไรคือสาเหตุของอาการเหล่านั้น:

• ปัญหาสุขภาพช่องปาก การละเลยการดูแลฟันและเหงือกทำให้เหงือกอักเสบและเป็นโรคปริทันต์
• การบดกัดฟัน หากคุณคิดว่าตนเองกัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้
  
• การแปรงฟันแรง การแปรงฟันแรงเกินไปก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
• พันธุกรรม หากพ่อและแม่มีเหงือกร่น ก็อาจพบปัญหานี้กับลูกได้เช่นกัน
• เหงือกได้รับบาดเจ็บ อาจเกิดขึ้นเมื่อฟันบาดเจ็บอย่างรุนแรง

หากเลิกนิสัยบางอย่างได้อาจช่วยให้เหงือกร่นน้อยลง ส่งเสริมสุขภาพช่องปากด้วยการแปรงฟัน ทำให้แบคทีเรียลดน้อยลงและปากสะอาดขึ้น ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ทันทีด้วยตัวเอง

ทางเลือกในการรักษา

หากเหงือกร่นมากจนถึงขั้นที่การเปลี่ยนนิสัยไม่ช่วยให้เหงือกร่นลดน้อยลง มาโยคลินิกแนะนำให้รับการรักษาเพิ่มเติม การปลูกเหงือกคือวิธีการที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปริทันต์นำเนื้อเยื่อที่ดีมาปิดบริเวณที่มีเหงือกร่น โดยให้การรักษาด้วยยาชาเฉพาะที่ การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อเป็นการรักษาอีกวิธีหนึ่ง ที่ใช้รักษาเหงือกร่นหรือกระดูกที่ละลายไปเนื่องจากโรคปริทันต์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปริทันต์จะเปิดเหงือกบริเวณที่ร่นเพื่อกำจัดแบคทีเรียข้างใต้ ภายหลังจากที่บริเวณนั้นสะอาด จะใส่เนื้อกระดูกหรือโปรตีนบริเวณที่กระดูกละลายเพื่อกระตุ้นให้กระดูกและเนื้อเยื่อสร้างกลับขึ้นมาใหม่

การมีรอยยิ้มที่สดใสหมายถึงการใส่ใจทั้งเหงือกและฟันของคุณให้มีสุขภาพที่ดี รักษาสุขอนามัยช่องปากให้ดีเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยลดปัญหาเหงือกร่น เริ่มต้นด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง และอย่าลืมใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง ทั้งสองอย่างนี้จะช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่เป็นสาเหตุของปัญหาเหงือก และส่งผลให้เหงือกร่นได้ ท้ายที่สุดนี้ อย่าลืมพบทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจหาภาวะเหงือกร่นและช่วยคุณแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ