เด็กผู้หญิงที่มีกระเป๋าเป้สะพายหลัง
Badge field

เหงือกเป็นหนอง ควรเข้ารับการรักษาเมื่อไหร่?

Published date field

ส่วนใหญ่แล้วปัญหาเหงือกหรือปัญหาปริทันต์จะไม่ค่อยสร้างความเจ็บปวดเท่าไหร่จึงไม่รีบเข้าทำการรักษาทันที ยกเว้นปัญหาฝีที่เหงือกหรือเหงือกเป็นหนอง เพราะเป็นปัญหาที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยและมักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน จึงควรได้รับการรักษากับทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและรักษาฝีที่เหงือกให้หายไป สัญญาณและอาการที่บ่งบอกว่าเหงือกของคุณเป็นฝี เช่น เหงือกบวม แดง มีเลือดออกที่เหงือก และมีอาการปวดเมื่อเคี้ยวอาหาร

ฝีเหงือก
ปัญหาฝีที่เหงือกประเภทแรกเรียกว่า "ฝีเหงือก" เนื่องจากอยู่ในบริเวณเหงือกที่ใกล้กับ "คอฟัน" มากที่สุด เพราะเกิดจากการติดเชื้อและเกิดการอักเสบจากอาหารหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในปากและไปติดที่บริเวณรอบ ๆ ฟันซี่นี้

ฝีปริทันต์

ประเภทที่สองของปัญหาเหงือกเป็นหนองและเป็นมีความซับซ้อนกว่า นั่นคือ "ฝีปริทันต์" อาการนี้เกี่ยวเนื่องกับฟันซี่หนึ่งที่มีร่องลึกปริทันต์อยู่แล้วและมีการสูญเสียกระดูกในระดับหนึ่ง อาการจะคล้ายกับฝีเหงือกที่มีสาเหตุจากอาหารที่รับประทานหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปที่บริเวณร่องลึกปริทันต์รอบ ๆ ฟันซี่ดังกล่าว ปัญหานี้เกิดขึ้นเองเมื่อสุขภาพเหงือกของคุณเริ่มแย่ลง

การวินิจฉัย
ทันตแพทย์จะ X-ray บริเวณที่ติดเชื้อพร้อมกับตรวจร่องลึกปริทันต์เพื่อหาบริเวณที่มีหนอง เลือดออก บวม และแดง นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องทดสอบเส้นประสาทภายในฟันเพื่อให้แน่ใจว่า ฝีที่พบไม่ใช่อาจไม่ใช่แค่สัญญาณว่าต้องรักษาคลองรากฟันเท่านั้น แต่ปัญหาฟันแตกบิ่นหรือร้าวลึกไปจนถึงรากฟันก็อาจเป็นสาเหตุของอาการนี้ได้

วิธีการรักษา
คุณจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาปัญหาเหงือกเป็นฝีไม่ใช่แค่หาสาเหตุของปัญหาเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันการสูญเสียกระดูกรอบ ๆ ฟันเพิ่มเติมด้วยการแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ ปกติแล้วทันตแพทย์จะทำการรักษาโดยเจาะเอาหนองออกผ่านร่องลึกปริทันต์หรือจากภายนอกของเหงือกด้วยการกรีดหนองออก ในกรณีที่สองนี้ต้องใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อระงับความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย จากนั้น ทันตแพทย์จะทำความสะอาดรากฟันเพื่อกำจัดเศษอาหาร คราบหินปูน สิ่งแปลกปลอม หรือแบคทีเรียออกจากบริเวณดังกล่าว สุดท้ายทันตแพทย์อาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ หรือยาแก้ปวดในกรณีที่มีอาการปวดรุนแรง

การดูแลสุขภาพเหงือกด้วยตนเอง
ก่อนพบทันตแพทย์ คุณควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นและน้ำยาบ้วนเพื่อช่วยฆ่าเชื้อในช่องปาก หรือในกรณีที่ไม่เจ็บปวดเกินไปคุณอาจใช้วิธีการแปรงฟัน (นอกเหนือจากการแปรงฟันเช้า-เย็น) เพื่อช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เจริญเติบโตมากกว่าปกติในบริเวณนี้และกำจัดเศษอาหารที่ยังตกค้างอยู่ด้านในออกไปได้
เช่นเคย วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้เกิดปัญหานี้คือการป้องกันอย่าให้เหงือกติดเชื้อโดยการหมั่นทำความสะอาดช่องปากและไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากที่เหมาะกับสภาพช่องปากเพื่อการดูแลเหงือกอย่างเหมาะสม

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม