วิธีแปรงฟันเด็กวัยหัดเดิน

เด็กอายุ 2 ขวบมักมีรอยยิ้มที่สดใสน่ารัก ถึงแม้ว่าฟันจะขึ้นยังไม่ครบก็ตาม แต่ก็ควรพาไปพบทันตแพทย์ตามนัด การหัดให้ลูกน้อยวัยหัดเดินแปรงฟันอย่างถูกต้อง เป็นปลูกฝังนิสัยเรื่องสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดชีวิตให้กับลูกน้อยของคุณได้ วิธีการสร้างกิจวัตรการแปรงฟันให้แก่ลูกน้อย

ไปซื้อแปรงสีฟันด้วยกัน

สร้างบรรยากาศพิเศษให้กับการเลือกซื้อแปรงสีฟัน พาลูกน้อยไปเลือกแปรงสีฟันด้ามแรกของเขา โดยให้เขาเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม พร้อมลายตัวการ์ตูนที่เขาชื่นชอบ แปรงสีฟันที่ใช้แบตเตอรี่เหมาะกับเด็กวัยหัดเดินที่ซนหรือไม่อยู่นิ่ง ให้ลูกเลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ และมีรสชาติที่เหมาะสมสำหรับเด็ก

การจัดเตรียมก่อนเริ่มแปรงฟัน

กำหนดเวลาการแปรงฟันที่ชัดเจน และสอนลูกให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง สร้างความร่วมมือกับลูกโดยเปิดโอกาศการพูดคุยถึงเรื่องเวลาการแปรงฟัน เช่น หลังอาหารเช้าหรือก่อนเวลานอน สำคัญอย่างไร การแปรงฟันก่อนนอนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ระวังอย่ารอจนลูกง่วง หมดแรงหรือเริ่มงอแงไปซะก่อน ให้ลูกมีส่วนร่วม เช่น ให้ลูกเป็นคนเปิดก๊อกน้ำหรือกดปุ่มเปิดที่แปรงสีฟันไฟฟ้า สร้างบรรยากาศการแปรงฟันให้สนุนสนาน ลูกๆจะตั้งหน้าตั้งตารอและให้ความร่วมมือกับการแปรงฟันให้เป็นไปอย่างราบรื่น

เริ่มแปรงฟัน

เตรียมแปรงสีฟันของเด็กให้พร้อม บีบยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว จากนั้นลองหาตำแหน่งที่ลูกน้อยสบายและถนัดที่สุด เช่น ให้ลูกยืนบนเก้าอี้แบบขั้นบันไดหรือนั่งบนตัก เริ่มแปรงจากฟันด้านในก่อน จับด้ามแปรงไปทางแนวเหงือกโดยทำมุม 45 องศาแล้วขยับแปรงไปมา ทำซ้ำที่ฟันด้านนอก เลื่อนแปรงไปที่แนวเหงือกแล้วแปรงตามขั้นตอนเดิมอีกครั้ง อย่าลืมแปรงพื้นผิวฟันด้านบดเคี้ยวด้วย หยุดซักพัก หากลูกน้อยเริ่มงอแง เตือนให้เด็กบ้วนปากอย่างระมัดระวัง และระวังอย่าให้เขากลืนยาสีฟัน สอนให้เขาบ้วนปากเองด้วยเทคนิคที่เหมาะสม

ทำให้การแปรงฟันเป็นเรื่องน่าสนุก

เปลี่ยนเวลาแปรงฟันให้กลายเป็นเกม แต่งเพลงสนุกๆ ให้เด็กๆ ระหว่างแปรงฟัน หมั่นให้ลูกฝึกการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เปิดวิดีโอที่มีตัวละครโปรดของเขาขณะที่เขากำลังแปรงฟันเพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตามที่ช่วยให้ประสบการณ์การแปรงฟันเป็นเรื่องสนุก เป็นการส่งเสริมด้านการดูแลสุขภาพช่องปากให้ติดตัวไปตลอด

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม