อาการปวดเป็นเรื่องปกติ

การรู้สึกเจ็บหรือปวดภายในปากหลังใส่เหล็กจัดฟันใหม่ ๆ หรือเมื่อทันตแพทย์จัดฟันปรับดึงลวดจัดฟันแต่ละครั้งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากฟันและขากรรไกรเกิดการบังคับให้เคลื่อนตัว การดึงนี้สร้างกระบวนการของกระดูกที่ค่อย ๆ ละลายตัวลงและสร้างกระดูกใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ฟันของคุณเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ การเคลื่อนตัวของฟันนี้ทำให้เกิดความตึงเครียดและแรงกดดันในช่องปากส่งผลให้รู้สึกไม่สบายในช่องปากในช่วงที่คุณใส่เหล็กจัดฟันระยะแรก ๆ หรือเมื่อดึงลวดจัดฟัน อาการนี้เหงือกบวมจะเป็นนานสองถึงสามวัน แต่ถ้าหากมีอาการเป็นระยะเวลานาน นี่อาจไม่ใช่อาการบวมทั่วไปและอาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ได้

เหงือกอักเสบจากคราบพลักที่ซ่อนอยู่

ปัญหาเหงือกอักเสบนั้นมีสาเหตุมาจากมีคราบพลักจากแบคทีเรียสะสมอยู่ที่ฟันของคุณ ยิ่งคุณใส่เหล็กจัดฟันก็ยิ่งทำให้การกำจัดเศษอาหารที่มีแบคทีเรียสะสมอยู่ออกจากแบร็คเก็ตและลวดจัดฟันได้ยากขึ้น โดยธรรมชาติแล้วเมื่ออาหารติดอยู่ที่เหงือกของเรา เศษอาหารเหล่านี้จะสามารถสะสมตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้เหงือกอักเสบได้ ดังนั้น การหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อปกป้องฟันของคุณ และยิ่งคุณใส่เหล็กจัดฟันหรืออุปกรณ์จัดฟันด้วยแล้ว คุณก็ยิ่งต้องดูแลความสะอาดช่องปากของคุณมากกว่าปกติ
ในการลดอาการบวมนี้ คุณต้องหมั่นฝึกเทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่จัดฟัน ซึ่งทันตแพทย์จัดฟันจะเป็นผู้สอนถึงวิธีแปรงฟันที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คุณควรลงทุนหาซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากเพิ่มเติมที่ช่วยทำความสะอาดทั้งช่องปากในระหว่างที่ใส่เหล็กจัดฟันอยู่นี้ ทันตแพทย์จัดฟันส่วนใหญ่จะแนะนำแปรงสีฟันที่มีขนแปรงออกแบบมาเพื่อการจัดฟันโดยเฉพาะ ที่มีขนแปรงที่นุ่มพิเศษเพื่อปกป้องฟันที่กำลังพยายามเคลื่อนตำแหน่งและมีขนแปรงสั้นยาวตามสรีระของฟันที่ใส่เหล็กอยู่ด้วย

ฮอร์โมนเปลี่ยนทำให้เหงือกบวมได้

ผู้คนส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเหงือกบวมเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์เพราะมีเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็วสามารถเพิ่มโอกาสของปัญหาเหงือกอักเสบขึ้นได้อย่างมาก จากข้อมูลการศึกษาทางทันตกรรม พบว่าหญิงตั้งครรภ์กว่าร้อยละ 30 จะเป็นปัญหาเหงือกอักเสบ เหตุเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนส่งผลให้ร่างกายตอบสนองต่อคราบจุลินทรีย์ที่อยู่ในปากเปลี่ยนแปลงไปจึงเพิ่มความเสี่ยงการเกิดปัญหาเหงือกอักเสบ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรใส่เหล็กจัดฟันในช่วงที่ตั้งครรภ์ สำหรับผู้ที่ใส่เหล็กจัดฟันก่อนการตั้งครรภ์ ควรแจ้งทันตแพทย์จัดฟันเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและควบคุมไม่ให้เกิดภาวะปัญหาเหงือกหรือเหงือกบวม นอกจากนี้ หญิงที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงก็อาจพบกับปัญหาเหงือกบวมหรือเหงือกอักเสบได้

ไม่ว่าอะไรจะเป็นสาเหตุของอาการเหงือกบวมก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดเมื่อมีอาการเหงือกบวมคือให้ไปพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อตรวจสภาพช่องปากและตรวจสอบวิธีการแปรงฟันของคุณเพื่อช่วยลดอาการเหงือกบวม ทันตแพทย์จะระบุสาเหตุว่าอะไรทำให้เหงือกบวมหรืออักเสบ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเปลี่ยน หรือมีคราบพลักสะสม เพื่อหาวิธีรักษาได้อย่างถูกต้อง

เหล็กจัดฟันทำให้ระคายเคืองได้

อีกหนึ่งสาเหตุของเหงือกบวมที่เกี่ยวเนื่องกับเหล็กจัดฟันคือ การมี "ภาวะเหงือกโต" เหงือกโตเกิดจากภาวะเหงือกงอกเกิน (Hyperplasia) หรือเหงือกขยายเกินตัว (Hypertrophy) เกิดขึ้นเมื่อเหงือกโตมากผิดปกติหรือเซลล์ของเหงือกเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากกรรมพันธุ์หรือการใช้ยาบางตัว แต่เป็นไปได้ที่เกิดจากเหงือกระคายเคืองเนื่องจากการใส่เหล็กจัดฟัน ให้แจ้งทันตแพทย์จัดฟันถึงประวัติทางการแพทย์ของคุณเพื่อให้ทันตแพทย์วินิจฉัยอาการเหงือกบวมและรับการรักษาที่เหมาะสม

ดูแลรักษาเหงือกบวมจากการใส่เหล็กจัดฟัน

จำไว้ว่า ควรนัดทันตแพทย์จัดฟันเมื่อสังเกตุเห็นอาการเหงือกบวมจากการใส่เหล็กจัดฟัน และให้หมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดเพื่อช่วยบรรเทาอาการก่อนไปพบทันตแพทย์โดยใช้วิธีการดังต่อไปนี้


• ขัดฟันเป็นประจำทุกวันและใช้ไหมขัดฟันแบบพิเศษที่ช่วยทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ เหล็กจัดฟัน
• ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มและอย่าลืมเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก ๆ 3 เดือน หรือเมื่อขนแปรงเสื่อมสภาพ
• ใช้เวลาแปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที และตรวจสอบว่าหลังแปรงฟันแบร็คเก็ตว่าสะอาดทั่วหรือไม่
• บ้วนปากด้วยน้ำหรือใช้น้ำยาบ้วนปากหลังแปรงฟัน
• บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นเพื่อช่วยกำจัดเชื้อปัญหาจากการบวมอักเสบ

การดูแลช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกในการดูแลสุขภาพร่างกายของเรา และยิ่งเมื่อคุณใส่เหล็กจัดฟันด้วยแล้ว การดูแลปากให้สะอาดและแปรงฟันอย่างถูกวิธีจะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ และอาการระคายเคืองภายในปากไปได้อย่างมาก

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

แบบทดสอบเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก

อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มของคุณ

ทำแบบประเมินสุขภาพช่องปากของเราเพื่อให้กิจวัตรการดูแลช่องปากของคุณเกิดประโยชน์มากที่สุด

แบบทดสอบเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก

อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มของคุณ

ทำแบบประเมินสุขภาพช่องปากของเราเพื่อให้กิจวัตรการดูแลช่องปากของคุณเกิดประโยชน์มากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

การเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะกับคุณ

การเลือกผลิตภัณฑ์ทันตกรรม

การเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะกับคุณ

การเลือกแปรงสีฟันมีความสำคัญมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด เรียนรู้ชนิดของแปรงสีฟันที่คุณควรใช้ เมื่อไรคุณควรเปลี่ยนแปรงสีฟันและอื่น ๆ ที่ Colgate.co.th

วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง

การแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟัน

วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง

มาดูเทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้อง วิธีการเลือกยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คุณควรใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะมีรอยยิ้มสุขภาพดี และสดใส

ปกป้องช่องปากจาก หินปูน เสียวฟัน เหงือกเลือดออก ด้วยนวัตกรรมใหม่จากคอลเกต ยาสีฟันเกลือ

พลัคและคราบหินปูน

ปกป้องช่องปากจาก หินปูน เสียวฟัน เหงือกเลือดออก ด้วยนวัตกรรมใหม่จากคอลเกต ยาสีฟันเกลือ

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้