เลือกใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าคอลเกต เพื่อสุขภาพปากที่ดี ดูแลเหงือก

วิธีเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า : เรื่องที่คุณต้องรู้

การดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีสำหรับการดูแลช่องปากของคุณให้สุขภาพดี มีฟันขาวสะอาด ขจัดคราบพลัค คราบหินปูน ไม่มีกลิ่นปากเหม็น เพื่อรอยยิ้มของคุณที่สะอาดสดใสไปนาน ๆ

แต่ด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าในท้องตลาดมีหลากหลายรูปแบบ จนอาจทำให้คุณตัดสินใจไม่ถูก  เราจึงมีข้อแนะนำในการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะกับคุณ อย่างเช่น ประเภทของแปรงสีฟันไฟฟ้า คุณสมบัติที่ควรมีในแปรงสีฟันไฟฟ้า และวิธีการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

 

ประเภทของแปรงสีฟันไฟฟ้า

มาทำความรู้จัก แปรงสีฟันไฟฟ้า 2 ประเภทหลัก และวิธีการทำงานกัน 

 

ประเภทที่ทำงานด้วยการบิดหมุน

แปรงสีฟันไฟฟ้าที่ใช้หลักการบิดหมุน จะมีหัวแปรงรูปกลมที่เคลื่อนที่ขึ้นลงและหมุนเป็นวงได้ ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องออกแรงกดบนฟันของคุณ

 

ประเภทโซนิค

แปรงสีฟันไฟฟ้าประเภทโซนิค จะปล่อยคลื่นสั่นที่ช่วยผลักดันยาสีฟันให้ซอกซอนเข้าไปรอบๆ ซี่ฟันของคุณ ช่วยขจัดคราบพลัค หินปูน และแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากเหม็น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการแปรงด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้านั้นอ่อนโยนต่อเหงือก

 

คุณสมบัติที่ควรมองหาในการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า

เมื่อเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า คุณสมบัติที่คุณควรพิจารณา ได้แก่

 

ความถี่ของการขยับหัวแปรงต่อนาที (BPM)

 

ยิ่งจำนวน BPM มากครั้ง ก็ยิ่งหมายถึงประสิทธิภาพที่มากกว่าในการขจัดคราบพลัค หินปูน และแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากเหม็น แปรงชนิดแรงบิดหมุนจะมี BPM อยู่ที่ประมาณ 1,300 - 8,800 รอบต่อนาที ในส่วนของแปรงชนิดจะมีความถี่ของการขยับขนแปรงที่ 24,000 - 30,000 รอบต่อนาที

 

ระบบจับเวลา

แปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีระบบจับเวลาในตัว ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้เวลาแปรงฟันที่ 2 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นแปรงสีฟันไฟฟ้าบางรุ่นสามารถแจ้งเตือนทุก 30 วินาที ให้คุณเปลี่ยนตำแหน่งการแปรง เพื่อให้คุณแปรงฟันได้อย่างสะอาดทั่วทั้งปากนั่นเอง

 

โหมดทำความสะอาด

แปรงสีฟันไฟฟ้าบางรุ่นมีโหมดทำความสะอาดมากกว่าหนึ่งโหมดอย่าง โหมดความเร็วสูง โหมดอ่อนโยน หรือโหมดถนอมเหงือก เป็นต้น นอกจากนั้นในแปรงสีฟันไฟฟ้าประเภททำงานด้วยคลื่นสั่นความถี่สูงคุณยังสามารถเลือกระดับความแรงในการสั่นสะเทือนได้ และในบางรุ่นคุณก็ยังสามารถเลือกได้ทั้งโหมด และความแรงได้ เพื่อให้ลงตัวกับสไตล์การแปรงฟันของคุณได้มากที่สุด

 

เซ็นเซอร์แรงกด

แปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีเซ็นเซอร์แรงกด จะช่วยเตือนคุณเมื่อคุณออกแรงกดบนฟันของคุณมากเกินไป เพื่อป้องกันเหงือกบาดเจ็บจากการแปรงฟันนั่นเอง

 

กันน้ำได้

คุณเป็นหนึ่งในคนที่ชอบแปรงฟันในขณะอาบน้ำไปด้วยหรือเปล่า? ถ้าอย่างนั้นก็ควรเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่กันน้ำได้ด้วย

 

วิธีการชาร์จไฟ

แปรงสีฟันไฟฟ้ามีวิธีการชาร์จไฟ 2 แบบ คือแบบแท่นชาร์จ และ แบบ USB 

โดยการชาร์จแบบแรก คุณจะต้องเสียบตัวแปรงสีฟันไฟฟ้าลงในแท่นชาร์จที่มีมาให้ ส่วนการชาร์จแบบ USB คุณสามารถใช้พอร์ต USB แบบมาตรฐานทั่วไปในการชาร์จได้เลย

 

แบตเตอรี่ชาร์จไฟใหม่ได้ หรือ ใช้แล้วทิ้ง

แปรงสีฟันไฟฟ้ามีทั้งแบบแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟใหม่ได้ และแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟใหม่ได้จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว ส่วนแบบที่ใช้แบตเตอรี่ใช้แล้วทิ้งมีข้อดีตรงที่สะดวกกว่า ในกรณีที่คุณไม่สะดวกที่จะชาร์จไฟบ่อย ๆ

 

สะดวกพกพา

ในกรณีที่คุณจะต้องพกแปรงสีฟันไฟฟ้าเดินทางไปกับคุณด้วย ควรมองหาแบบที่มีกล่องหรือซองพกพา เพื่อช่วยปกป้องหัวแปรงจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางได้

 

ชนิดและขนาดของหัวแปรง

เราควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุกๆ 3 เดือน ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ซึ่งถ้าเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าคุณแค่ถอดเปลี่ยนหัวแปรงก็เท่ากับได้แปรงสีฟันด้ามใหม่แล้ว แทนที่จะต้องทิ้งไปทั้งด้ามแบบแปรงสีฟันธรรมดา โดยที่หัวแปรงของแปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีหลายรูปแบบ หลายขนาด ซึ่งคุณควรต้องเลือกแบบที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เช่น หัวแปรงขนาดเล็กเพื่อเข้าทำความสะอาดในจุดที่เข้าถึงยากเป็นต้น

 

ความแข็งของขนแปรง

ในขณะที่หลาย ๆ คนชอบขนแปรงนุ่ม อีกหลาย ๆ คนก็ชอบขนแปรงที่แข็งขึ้นมาหน่อย ซึ่งโดยส่วนมากทางผู้ผลิตแปรงสีฟันไฟฟ้าจะผลิตขนแปรงหลายระดับความนุ่มมาให้เลือกตามความต้องการอยู่แล้ว เช่น หากคุณมีอาการเสียวฟัน การเลือกใช้ขนแปรงนุ่มจะดีกับคุณมากกว่า

 

แปรงสีฟันไฟฟ้าดีไหม มีประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้ามีประโยชน์ ได้แก่ 

  • ขจัดคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคลื่นสั่นความถี่สูงของแปรงสีฟันไฟฟ้าจะสร้างฟองเล็ก ๆ ขึ้นรอบ ๆ ซี่ฟันของคุณ ซึ่งช่วยในการทำความสะอาดคราบพลัคและแบคทีเรียอย่างได้ผล

  • ลดฟันผุและโรคเหงือก ด้วยความสามารถในการทำความสะอาดคราบพลัคและแบคทีเรีย จึงส่งผลให้ช่วยลดการเกิดฟันผุ และโรคเหงือกได้

  • ดูแลสุขภาพช่องปาก เมื่อคุณใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นประจำ จะเป็นการช่วยดูแลสุขภาพช่องปากของคุณโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นกำจัดกลิ่นปากเหม็น ป้องกันโรคเหงือกอักเสบ และ ลดการสะสมของหินปูน เป็นต้น

  • สะดวก เป็นสะดวกสบายที่จะแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นกิจวัตรประจำวัน และยังทำความสะอาดฟันทุกซี่ได้ง่าย ด้วยหัวแปรงขนาดเล็กที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึงทุกซอกมุมในปากโดยสะดวก 

     

วิธีการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

ข้อควรคำนึงในการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า มีดังต่อไปนี้

  • ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 2 นาที

  • ควรแปรงฟันให้ครบทุกซี่ ทั่วทั้งปาก

  • ทดลองปรับโหมดและระดับความแรง เพื่อให้เหมาะสมกับคุณที่สุด

  • เปลี่ยนหัวแปรงอันใหม่ทุก ๆ 3 เดือน

  • ทำความสะอาดด้ามแปรงและที่ชาร์จเป็นประจำ เพื่อป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรีย

     

แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า แปรงสีฟันไฟฟ้ามี 2 ประเภท คือประเภทที่ทำงานด้วยการบิดหมุน และ ประเภทโซนิค ซึ่งทั้งสองประเภทสามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง คุณสามารถเลือกใช้ประเภทที่ต้องการได้เลย

แต่หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี อาจลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า คอลเกต® ซึ่งมีคุณสมบัติหลายประการ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ 

 

  • เป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าประเภทโซนิค ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งรูปแบบการแปรงให้เหมาะกับคุณเองได้ ด้วย 4 โหมดทำความสะอาด (สะอาดหมดจด ฟันขาว ดูแลเหงือก สปาช่องปาก) และ มี 10 ระดับการสั่น ซึ่งทำให้คุณเลือกได้ถึง 33 แบบ* ให้เหมาะกับคุณที่สุด

  • ในตัวแปรงมีหน่วยความจำในตัว ซึ่งจะจดจำโหมดการแปรงและระดับความแรงที่คุณเลือกใช้ และยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกด ที่จะช่วยเตือนไม่ให้คุณออกแรงกดลงบนฟันมากเกินไป เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการแปรงแรงเกินไป 

  • มาพร้อมกับหัวแปรง กัมแคร์ ที่มีขนแปรงปลายเรียวแหลม ช่วยซอกซอนเข้าทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก

  • มีระบบ Smart Coaching ที่ช่วยเตือนเวลาทุก ๆ 30 วินาที เพื่อให้คุณเปลี่ยนย้ายด้านที่แปรงไปจนครบ 2 นาที

 

*โหมด สะอาดหมดจด ฟันขาว ดูแลเหงือก มี 10 ระดับการสั่น ส่วนโหมด สปาช่องปาก มี 3 ระดับการสั่น

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแปรงสีฟันไฟฟ้า

Q. เลือกใช้หัวแปรงแบบไหนดี?

A. หัวแปรงที่คุณเลือกขึ้นอยู่กับลักษณะเหงือกและฟันของคุณ หากคุณมีอาการเสียวฟัน หรือเป็นโรคเหงือก ควรเลือกหัวแปรงที่มีขนแปรงนุ่ม อ่อนโยน

 

Q. ต้องเปลี่ยนหัวแปรงบ่อยแค่ไหน?

A. ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุกๆ 3 เดือน (ตามคำแนะนำของทันตแพทย์) และขึ้นอยู่กับชนิดของหัวแปรงด้วยเช่นกัน

 

Q. ทำความสะอาดแปรงสีฟันไฟฟ้าได้อย่างไร?

A. ควรทำความสะอาดด้ามแปรงและที่ชาร์จเป็นประจำ เพื่อป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรีย แนะนำให้ล้างหัวแปรงทุกครั้งหลังการแปรงฟัน จากนั้นถอดหัวแปรงออกล้างอีกครั้ง จากนั้นกรีดขนแปรงให้น้ำออก ในส่วนของด้ามแปรง ใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาด โดยไม่ควรให้เปียกน้ำ

 

Q. หากจัดฟันอยู่ ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าได้หรือไม่?

A. สามารถใช้ได้ และควรเลือกใช้หัวแปรงที่เหมาะสมกับสภาพฟันของคุณ

 

สรุป

เราหวังว่าคำแนะนำในการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้านี้ จะครอบคลุมทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ และช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้แปรงที่เหมาะสมกับคุณเองได้ง่ายขึ้น ด้วยการพิจารณาถึงคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการของคุณ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้แปรงสีฟันประเภทไหน ต้องหมั่นดูแลความสะอาดของปากและฟันด้วยการแปรงฟันอย่างถูกต้องตามคำแนะนำเป็นประจำ และไปพบทันตแพทย์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ

 

สนใจซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า คอลเกต ได้ที่

Lazada

Shopee

 

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม