ยิ้มสู้ของป้าเจี๊ยบ

#ยิ้มสู้

วันที่สังคมมองว่า
ฉัน “ทำตัวไม่สมวัย”

แชร์เรื่องราวยิ้มสู้

แชร์เรื่องราวยิ้มสู้

ความหลงใหลในกีฬาผาดโผนที่ผิดแผกจากคนวัยเดียวกันทำให้หลายคนสบประมาทป้าเจี๊ยบว่าเป็น “คนแก่ที่ทำตัวไม่สมวัย” แต่ป้าเจี๊ยบใน
วัย 60 กว่าก็ยังคง ‘ยิ้มสู้’ ก้าวเท้าขึ้นบนลองบอร์ดทุกครั้งโดยไม่หวั่นไหวไปกับแรงต้านของลม เช่นเดียวกับแรงปะทะทางความคิดของคนรอบ
ข้าง จากจุดเริ่มต้นของอดีตผู้ป่วยมะเร็งที่เล่นสเก็ตบอร์ดในสวนสาธารณะเพื่อฟื้นกำลังร่างกาย ป้าเจี๊ยบก้าวออกจากความกลัวและยืนหยัด
ทำสิ่งที่รักเป็นเวลาหลายปีจนได้เป็นนักกีฬาลองบอร์ดทีมชาติ

“ถ้าเรา ‘ยิ้มสู้’ ยอมรับความจริง ความกลัวก็จะหายไป”
คือคำกล่าวของป้าเจี๊ยบ-นงลักษณ์ ชัยฤทธิไชย
ผู้ไม่เคยให้อายุเป็นตัวกำหนดความสุขของการได้ลงมือและริเริ่มทำ

ป้าเจี๊ยบ

ทำความรู้จักป้าเจี๊ยบ

ป้าเจี๊ยบ-นงลักษณ์ ชัยฤทธิไชยเป็นที่รู้จักในฐานะตัวแทนนักกีฬาลองบอร์ดทีมชาติไทยที่มีอายุมากที่สุดในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30
พ.ศ. 2562 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ ก่อนหน้าที่จะเล่นกีฬาลองบอร์ด ป้าเจี๊ยบผ่านมาแล้วหลายบทบาททั้งเคยทำงานในโรงแรม รับ
ทำทัวร์ เปิดโรงงานรับซักผ้า ทำรังนกและมะม่วงหิมพานต์ส่งขายในตลาด ป้าเจี๊ยบไม่เคยจำกัดตัวเองด้วยนิยามของอาชีพใดอาชีพหนึ่งและ
ใช้ชีวิตด้วยใจที่เปิดกว้างให้กับทุกโอกาส “เราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดกับเราเมื่อไหร่ แต่ขณะที่เรายังหายใจอยู่ เราก็ทำในสิ่งที่เรารักและมี
ความสุขให้ได้มากที่สุด”

จุดพลิกผันที่สำคัญเกิดขึ้นในวัย 53 เมื่อป้าเจี๊ยบพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านม ต้องผ่าตัดและทำเคมีบำบัด ในระหว่างที่พักฟื้น ป้าเจี๊ยบหัน
มาออกกำลังกายมากขึ้นและติดตามลูกชายไปเดินเล่นในสวนสาธารณะเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับคืนปกติในเร็ววัน ป้าเจี๊ยบหยิบเอาสเก็ตบ
อร์ดมาลองไถเล่นไปรอบสนาม จนในที่สุดก็ได้หยิบจับพัฒนาเป็นทักษะและงานอดิเรกที่สนุกเกินวางมือ ในช่วงแรกที่เริ่มเล่นอย่างจริงจัง
ป้าเจี๊ยบต้องเจอกับเสียงทักท้วงมากมายจากเพื่อนร่วมรุ่น บางคนแนะนำให้ป้าเจี๊ยบไปรำไทเก๊กหรือทำกิจกรรมอื่นที่ดูจะปลอดภัยกว่า

เรื่องราวของป้าเจี๊ยบ
เรื่องราวของป้าเจี๊ยบ
เรื่องราวของป้าเจี๊ยบ
เรื่องราวของป้าเจี๊ยบ

ความกลัวคือกรงขังที่มองไม่เห็น เราเองเป็นคนที่สร้างมันขึ้นมาและสยบยอมมัน กระทั่ง ‘เสียงของความหวังดี’ ของคนรอบข้างในบางครั้งก็
อาจเป็นเชื้อไฟชั้นดีให้กับต้นทุนความกลัวที่เรามีอยู่แล้วและหยุดยั้งเราจากการลงมือทำ แต่ป้าเจี๊ยบกลับเลือกที่จะยิ้มสู้ให้กับความกลัวใน
ใจของตนเองและความกลัวที่คนรอบข้างสร้างขึ้นเป็นเกราะกำบัง เปลี่ยนแรงเสียดทานของสังคมเป็นพลังขับเคลื่อนให้ตนเองยังคงไปข้าง
หน้า ทุกครั้งที่ป้าเจี๊ยบล้มลงและลุกขึ้นมายิ้มได้ทุกครั้ง รอยยิ้มของป้าเจี๊ยบได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนนักลองบอร์ดรุ่นหลังได้
กล้าเผชิญกับความกลัวและสร้างหมุดหมายใหม่ในการทำสิ่งที่รักโดยปราศจากข้ออ้าง

“ความกลัวช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่ที่สำคัญคือเราต้องไม่ปล่อยให้ความกลัวปิดกั้นเราจากโอกาส เราต้องรู้จักให้โอกาสตัว
เรามีความสุขตราบที่เรายังมีลมหายใจ”