5 เคล็ดลับกำจัดกลิ่นปาก
ทั้ง ๆ ที่เราแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน แต่ทำไมเรายังมีปัญหากลิ่นปากหรือปากเหม็น ไม่ว่าคุณจะชอบทานหัวหอมระหว่างมื้อกลางวันหรือต้องรับประทานยาที่ทำให้ปากแห้ง ลองมาดูเคล็ดลับต่อไปนี้ที่คุณใช้ควบคุมกลิ่นปากหรืออาการ "ปากเหม็น" ได้
เทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้อง
คุณทราบดีอยู่แล้วว่าการแปรงฟันช่วยขจัดกลิ่นปากออกไปได้ แต่ว่าคุณแปรงฟันถูกวิธีหรือไม่? นี่คือคำถามสำคัญ ทันตแพทย์แนะนำให้คุณแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและควรแปรงฟันให้ครบทั่วทั้งปาก ซึ่งรวมถึงขอบเหงือกและซอกฟันบริเวณที่ใกล้กับเพดานปากและลิ้นด้วย เมื่อคุณมีปัญหากลิ่นปาก คุณควรให้เวลากับการแปรงผิวลิ้นมากหน่อยและแปรงให้ทั่ว เนื่องจากลิ้นเป็นบริเวณที่แบคทีเรียมักไปเกาะตัวอยู่มากที่สุด เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แปรงสีฟันบางชนิดจะออกแบบมาให้บริเวณส่วนหัวแปรงสามารถใช้ขัดลิ้นเพื่อกำจัดแบคทีเรียได้ด้วย
เปลี่ยนแปรงสีฟัน
หากคุณรอที่จะพบทันตแพทย์ตามนัดทุก ๆ 6 เดือนก่อนค่อยเปลี่ยนแปรงสีฟัน คุณควรเปลี่ยนความคิดนั้นเสียใหม่ อุปกรณ์ใช้ทำความสะอาดฟันที่อยู่ในสภาพดีมีส่วนช่วยให้ฟันของคุณสะอาดอยู่เสมอ เมื่อแปรงสีฟันของคุณหลุดลุ่ยหรือบานแล้ว คุณก็ควรเปลี่ยนแปรงอันใหม่ เมื่อแปรงสีฟันที่ใช้อยู่ขนหลุดลุ่ยหรือบานแล้ว หรือจำง่าย ๆว่า คุณควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก ๆ 2 - 3 เดือน เลือกแปรงขนนิ่ม จับถนัดมือและขนาดของหัวแปรงเหมาะกับช่องปากของคุณ
ทำความสะอาดอุปกรณ์สำหรับช่องปากเป็นประจำ
การที่คุณใส่ฟันปลอมหรือใส่รีเทนเนอร์เพื่อจัดฟันไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สนใจสุขภาพช่องปากของคุณก็ได้ ฟันปลอมทั้งชุดหรือฟันปลอมบางซี่ต้องได้รับการทำความสะอาดทุกวันเช่นเดียวกับฟันที่เกิดตามธรรมชาติ ให้คุณนำอุปกรณ์สำหรับช่องปากเหล่านี้ออกมาจากปากแล้วกำจัดเศษอาหารและคราบพลักที่สามารถก่อให้เกิดกลิ่นปากออกไป จากนั้นก็ค่อย ๆ ทำความสะอาดตามวิธีที่ทันตแพทย์แนะนำ
กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
ปากที่แห้งจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย ให้ลองเคี้ยวหมากฝรั่งหรือลูกอมสูตรไม่มีน้ำตาลเพื่อช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย หรือปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับการใช้น้ำลายเทียมในผู้ที่มีภาวะน้ำลายน้อยได้ เช่น ในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งการหลั่งน้ำลายนั้นจะช่วยชะล้างเอาแบคทีเรียที่ก่อตัวขึ้นในช่องปากให้ลดน้อยลงและช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้
เลือกประเภทอาหารที่รับประทาน
อาหารบางชนิดมักทำให้มีกลิ่นปากสูง เช่น พืชตระกูลหอม สะตอ กระเทียม หรือแม้กระทั่งน้ำส้มสายชู อาหารเหล่านี้จะทำให้เรามีกลิ่นปากหลังรับประทานอาหาร ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดี โดยหากคุณต้องอยู่ในที่สาธารณะหลังรับประทานอาหาร เช่น ที่ทำงาน เข้าประชุม เป็นต้น นอกจากนี้ ทันตแพทย์ยังแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลเนื่องจากน้ำตาลเป็นอาหารชั้นเลิศของแบคทีเรีย รวมถึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีลักษณะเหนียว เนื่องจากมักติดที่ฟันของคุณนานกว่าปกติและกำจัดออกได้ยาก
คุณไม่จำเป็นต้องทนทุกข์หรือสูญเสียความมั่นใจเนื่องจากมีกลิ่นปากอีกต่อไป ให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยแปรงสีฟันที่สะอาดและอยู่ในสภาพดี สร้างสมดุลการหลั่งน้ำลายในช่องปากอย่างเพียงพอ เลือกอาหารอย่างระมัดระวัง และใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อช่วยควบคุมกลิ่นปากของคุณ และเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง