วิธีลดกลิ่นปาก
Badge field

เคล็ดลับเพื่อลมหายใจสดชื่นทั้ง 10 ประการ ให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจ คอลเกต

Published date field

บางครั้งเราก็ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่น่าอายและบ่อยครั้งเราก็ไม่รู้ว่าความผิดพลาดนี้เกิดจากอะไร

คุณอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับปัญหากลิ่นปาก และทำให้คนรอบข้างต้องอึดอัดมาเป็นเวลานานปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยากด้วยเคล็ดลับ 10 ประการเพื่อลมหายใจที่หอมสดชื่น ต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่มั่นใจด้วยลมหายใจหอมสดชื่น

ทานอะไรไป ก็ได้อย่างนั้น

จากคำพูดที่ว่า ทานอะไรเข้าไป คุณก็ได้อย่างนั้นถ้าคุณทานอาหารบางอย่างเข้าไป คุณก็มีกลิ่นเหมือนอาหารนั้นเช่นกันกระเทียมและหัวหอมคืออาหารที่มีกลิ่นแรง ในขณะที่อาหารที่มีความกรดหรือน้ำตาลสูงก็มีผลต่อกลิ่นปากเช่นกันเพราะกรดและน้ำตาลจะไปเพิ่มการผลิตแบคทีเรียในช่องปาก จึงทำให้เกิดกลิ่นปากอาหารทะเล เช่น ปลาทูน่าก็มีกลิ่นแรง รวมถึงผลิตนมและกาแฟด้วยเช่นกันHuffington Post อธิบายไว้ว่า เพราะกาแฟมีความเป็นกรด จึงมีผลต่อการสร้างกลิ่นได้ค่อนข้างมากเมื่อผสมกับกรดในกระเพาะอาหารของคุณ

การเลือกเครื่องดื่ม

นอกจากการรู้จักเลือกรับประทานอาหารแล้ว ควรรู้เรื่องการเลือกเครื่องดื่มด้วยเครื่องประเภทกาแฟและแอลกอฮอล์จะมีสารตกค้างที่เกาะติดกับคราบจุลินทรีย์ในช่องปากเมื่อคุณหายใจออก กลิ่นเหม็นดังกล่าวก็ถูกปล่อยออกมาด้วย

แปรงสีฟันพกพา

อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ปากของคุณสดชื่นได้ นั่นก็คือการพกแปรงสีฟันและยาสีฟันขนาดพกพาอุปกรณ์แปรงฟันเหล่านี้มีขนาดเล็กพอที่จะใส่ในกระเป๋าเงินหรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้แน่ใจว่าเศษอาหารกลางวันกลิ่นฉุนจะไม่ตกค้างอยู่ในช่องปากในระหว่างที่คุณอยู่นอกบ้านเตรียมอุปกรณ์แปรงฟันไว้ที่โต๊ะทำงานเผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินบ้างก็ดีนะ

หมั่นเปลี่ยนแปรงสีฟัน

การแปรงฟันเป็นรากฐานสำคัญของการดูแลช่องปากที่ดีและช่วยเรื่องการมีลมหายใจที่หอมสดชื่นสิ่งที่ต้องคำนึงด้วยคือแปรงสีฟันที่ใช้ควรอยู่ในสภาพดี นั่นหมายถึงอาจต้องเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยขึ้นกว่าที่เคยทำมาเช่นเดียวกับการที่คุณคงไม่กล้าขับรถที่ไม่ได้เปลี่ยนเบรคมาแล้วเป็นเวลาสองปี ดังนั้นอย่าใช้แปรงสีฟันที่มีสภาพขนแปรงหลุดลุ่ยอีกต่อไปเพื่อกิจวัตรการดูแลช่องปากที่ดี ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุกๆ 3 เดือน

ดื่มน้ำบ่อยๆ

เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์มากแค่ไหนนอกเหนือจากการขับล้างสารพิษออกจากร่างกายแล้ว น้ำยังช่วยให้ปากชุ่มชื้นและกระตุ้นต่อมน้ำลายให้หลั่งมากขึ้นเพื่อทำความสะอาดเศษอาหารภายในช่องปากได้ตลอดทั้งวันเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก

ทานผักในจาน

ยกมือขึ้น ถ้าคุณถูกสั่งให้กินผักใบเขียวตอนเด็กๆ ...ที่จริงแล้ว หนึ่งในผักใบเขียวที่ช่วยให้ลมหายใจของคุณสดชื่นคือผักชีฝรั่งหากคุณไปรับประทานอาหารนอกบ้านครั้งหน้า อย่าลืมเก็บผักชีฝรั่งไว้ทานตอนสุดท้ายของมื้อล่ะกลิ่นปากจะได้ไม่มากวนใจคุณ

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น มะเร็งและถุงลมโป่งพองมันยังทำให้มีกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์อีกด้วยหากคุณกำลังทนทุกข์ทรมานจากการติดนิโคติน ให้ลองปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับวิธีการเลิกสูบบุหรี่เพื่อจะได้มีลมหายใจที่สะอาด สำคัญยิ่งกว่านั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

การทำความสะอาดลิ้น

แม้ว่าการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันจะเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลช่องปาก แต่การทำความสะอาดลิ้นมักจะถูกละเลยหรือมองข้ามลิ้นจึงกลายเป็นที่หลบภัยของแบคทีเรียแนะนำให้ใช้เแปรงสีฟันที่มีด้านขูดลิ้นหลังหัวแปรงทำความสะอาดลิ้นทุกครั้งหลังการแปรงฟัน เพื่อลดสาเหตุของกลิ่นปาก

การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี

แน่ชัดว่าการใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้งและการแปรงฟันวันละ 2 ครั้งคือสิ่งสำคัญของการมีกลิ่นและลมหายใจที่ดีแต่ถ้าคุณยังคงมีปัญหากลิ่นปากอยู่บ้าง ให้ลองแปรงฟันวันละ 3 ครั้งตัวอย่างเช่น .การแปรงฟันหลังอาหาด้วยยาสีฟันกลิ่นมินต์เพื่อช่วยให้มีกลิ่นลมหายใจหอมสดชื่นหรืออาจใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นตัวช่วยเพื่อลมหายใจที่หอมสดชื่นมากยิ่งขี้น

การเข้าพบทันตแพทย์

ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ควบคู่ไปกับการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแผนการดูแลช่องปากว่าแบบใดที่เหมาะกับคุณที่สุด อย่าลังเลที่จะถามทันตแพทย์กลิ่นปากเป็นปัญหาจุกจิกที่น่ากวนใจในชีวิตการปฏิบัติตามเคล็ดลับข้างต้น จะช่วยให้คุณมีลมหายใจหอมสดชื่นควบคู่กับสุขภาพช่องปากที่ดีแน่นอน

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม