รู้หรือไม่ว่า ฟันเหลืองนอกจากจะทำลายความมั่นใจในรอยยิ้มและการสนทนา แล้วยังสะท้อนปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันของคุณอีกด้วย ว่าแต่ฟันเหลืองเกิดจากอะไร? เราจะมีวิธีแก้ฟันเหลืองได้อย่างไร? ถ้าคุณอยากเปลี่ยนฟันเหลืองให้เป็นฟันขาวสะอาดสดใสโดยไม่ต้องพึ่งคลินิกทันตกรรม เรามีวิธีทำให้ฟันขาวง่าย ๆ ด้วย 6 ขั้นตอนดูแลสุขภาพฟัน พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยแก้ฟันเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติที่ทั้งปลอดภัยและใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีอีกด้วย!
6 ขั้นตอนง่ายๆ ทำอย่างไรให้ฟันขาวขึ้น พร้อมเทคนิคดูแลสุขภาพฟัน
ตรวจสอบทางการแพทย์โดย Colgate Global Scientific Communication
ฟันเหลือง เกิดจากอะไร?
ฟันเหลือง คือสภาวะที่สีของฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งเกิดจากคราบที่สะสมอยู่บนผิวฟันมักจะมีสีเหลืองหรือน้ำตาล ส่วนใหญ่ปัญหาฟันเหลืองมักจะเกิดจากการดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากที่ไม่เพียงพอ รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ เหล่านี้
สุขอนามัยช่องปากไม่ดี: เป็นสาเหตุหลักของฟันเหลือง เกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ใช้ไหมขัดฟัน หรือไม่ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือน ทำให้คราบจุลินทรีย์ (plaque) และหินปูน (calculus) สะสมบนผิวฟัน คราบเหล่านี้จะดูดซับสีจากอาหารและเครื่องดื่มทำให้ฟันเหลือง
รับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์ ซอสปรุงรส ผลไม้ที่มีสีส้ม ฯลฯ โดยสีเหล่านี้สามารถซึมเข้าสู่ชั้นเคลือบฟันและทำให้ฟันเหลือง
การสูบบุหรี่:สารเคมีในควันบุหรี่ทำลายชั้นเคลือบฟัน (Enamel) ทำให้ฟันเหลืองคล้ำ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาช่องปากอื่นๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ
การใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่มยารักษาโรคบางชนิด เช่น เตตราไคลีน (Tetracyclines) ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) รวมถึงผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัด สามารถทำให้ฟันเหลืองหรือเป็นสีน้ำตาล โดยเฉพาะเมื่อใช้ในเด็กช่วงฟันกำลังขึ้น
อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นฟันของเราจะค่อย ๆ เหลืองตามอายุ เพราะชั้นเคลือบฟันจะบางลง เผยให้เห็นชั้นเนื้อฟันที่มีสีเหลืองนั่นเอง
พันธุกรรม บางคนมีสีฟันที่เหลืองโดยธรรมชาติ สืบทอดมาจากคนในครอบครัว
โรคบางชนิด สามารถทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ เช่น โรคทาลัสซีเมีย โรคตับ ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน เป็นต้น สามารถส่งผลต่อสีของฟัน
การบาดเจ็บที่ฟัน คนที่เคยได้รับบาดเจ็บ หรือกระทบแทกที่บริเวณฟัน อาจทำให้ฟันมีสีเข้มหรือฟันเหลืองกว่าฟันปกติได้
การรักษารากฟัน ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันอาจจะมีสีเข้มหรือเหลืองกว่าฟันปกติ
6 วิธีง่าย ๆ ให้ฟันขาวขึ้นด้วยตัวเอง
เมื่อคุณมีฟันเหลืองก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะคุณสามารถขจัดคราบฟันได้ด้วยตัวเอง พร้อมช่วยเปลี่ยนฟันเหลืองให้กลายเป็นฟันขาวขึ้นได้ด้วยของใช้ใกล้ตัว บางอย่างแค่เดินเข้าไปในห้องครัวเท่านั้นเอง มาดูกันว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้ฟันขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เรารวบรวม 6 วิธีง่าย ๆ ช่วยให้ฟันขาวขึ้นภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญมาฝาก...ทำตามได้เลย!
1. ออยล์พูลลิ่ง (Oil Pulling)
ออย์พูลลิ่งคือเทคนิคการกลั้วปากด้วยน้ำมัน เป็นวิธีดูแลสุขภาพช่องปากแบบดั้งเดิมที่มีมานานหลายศตวรรษ เชื่อกันว่ามีการใช้มานานกว่า 3,000 ปี ในตำราอายุรเวชโบราณของชาวอินเดีย และวัฒนธรรมอื่นๆ ทั่วโลก เช่น ชาวตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาเหนือ เพื่อช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก ปากเหม็น เหงือกอักเสบ ฟันเหลือง หินปูน และฟันผุ ทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้เหงือกส่งผลให้สุขภาพช่องปากโดยรวมดีขึ้นด้วย โดยน้ำมันจากพืชธรรมชาติที่นิยมนำมากลั้วปาก ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น
วิธีการทำง่ายมาก: อมและกลั้วน้ำมันไว้ในปากประมาณ 5 - 20 นาที จากนั้นบ้วนออก ระวังอย่าเผลอกลืนน้ำมันลงท้อง เพราะอาจจะทำให้คุณปวดท้องได้
2. แปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดา
เชื่อว่า แทบทุกครัวเรือนน่าจะมีเบกกิ้งโซดาติดครัวกันอยู่แล้ว นอกจากจะหาซื้อได้ง่ายและนำมาใช้ได้อย่างอเนกประสงค์แล้ว เบกกิ้งโซดายังช่วยให้ฟันขาวได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่บ้านอีกด้วย วิธีการแปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดาคือ
ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเล็กน้อย ให้มีลักษณะเป็นเนื้อครีมเข้มข้น
ทาสารที่ผสมแล้วลงบนขนแปรงสีฟัน จากนั้นให้แปรงฟันตามปกติทั่วทั้งช่องปากและฟันเป็นเวลา 2 นาที
ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที จากนั้นบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด
** ข้อควรระวัง: วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือก เพราะอาจจะทำให้เหงือกอักเสบได้ และควรใช้ในความถี่ที่เหมาะสม
3. แปรงฟันด้วยถ่านชาร์โคล
การแปรงฟันด้วยถ่านชาร์โคลเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถดูดซับคราบฟันเหลืองออกจากผิวฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ่ายชาโคลมีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก จึงช่วยดูดซับคราบพลัค แบคทีเรีย สารพิษ และสิ่งสกปรกบนผิวฟันได้ดี ช่วยดูดซับกลิ่นปากที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยลดอาการเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ ช่วยขจัดคราบชา กาแฟ ไวน์แดง บุหรี่ และคราบอื่นๆ บนผิวฟัน ช่วยให้ฟันขาวขึ้น ส่วนวิธีการแปรงฟันด้วยถ่านชาโคลก็ไม่ยุ่งยาก เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้
ใช้แปรงสีฟันเปียกหมาด ๆ จุ่มลงในถ่านชาร์โคล
บีบยาสีฟันที่คุณใช้เป็นประจำลงบนแปรง แล้วแปรงฟันให้ทั่วช่องปากและฟันเป็นเวลา 2 นาที
บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง เพื่อให้ช่องปากและฟันสะอาดหมดจด
** ข้อควรรู้: คุณสามารถเลือกใช้แปรงสีฟันชาร์โคล ช่วยขจัดคราบพลัคและแบคทีเรียได้เช่นกัน เราแนะนำแปรงสีฟัน คอลเกต สลิม ซอฟต์ ชาร์โคล
4. ฟอกฟันขาวด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) เป็นสารเคมีที่นิยมใช้ฟอกฟันขาว ด้วยประสิทธิภาพการขจัดคราบพลัค และคราบฟันได้ ช่วยขจัดคราบชา กาแฟ ไวน์แดง บุหรี่ และคราบอื่น ๆ บนผิวฟันจึงช่วยให้ฟันขาวขึ้น นอกจากนี้ ทันตแพทย์จะใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้นสูงร่วมกับเครื่องมือและเทคนิคพิเศษ เพื่อช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยวิธีการแปรงฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ นั่นคือ
ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำ ในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง
จุ่มยาสีฟันในส่วนผสม แล้วใช้แปรงฟันให้ทั่วช่องปากและฟันเป็นเวลา 2 นาที
บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง เพื่อให้ช่องปากและฟันสะอาดหมดจด
** ข้อควรระวัง: แนะนำให้ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แปรงฟันวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเคลือบฟันและช่องปากของคุณมากจนเกินไป นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ได้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการแปรงฟัน
5. สตรอว์เบอร์รี่ผสมเบกกิ้งโซดา
อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ฟันขาวขึ้นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถขจัดคราบพลัคและคราบฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ ขณะที่เบกกิ้งโซดาจะช่วยขจัดคราบบนผิวฟันออกได้อย่างดีขึ้นนั่นเอง วิธีนี้คุณสามารถทำตามง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง
บดผลสตรอว์เบอร์รี่สดเข้ากับเบกกิ้งโซดา จนได้เนื้อครีมเข้มข้น
นำมาแปรงฟันให้ทั่วช่องปากและฟันเป็นเวลา 2 นาที
บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง เพื่อให้ช่องปากและฟันสะอาดหมดจด
** ข้อควรรู้: แม้วิธีนี้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าช่วยให้ฟันขาวขึ้น แต่ก็เป็นวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยและสามารถทำได้ทุกสัปดาห์
6. แผ่นแปะฟันขาว (Whitening Strips)
การใช้แผ่นแปะฟันขาวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยฟอกฟันขาวง่าย ๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน เพราะในแผ่นแปะฟันขาวมีสารเปอร์ออกไซด์ ที่ช่วยฟอกสีฟันให้ฟันขาวขึ้น ช่วยขจัดคราบชา กาแฟ ไวน์แดง บุหรี่ และคราบสกปรกอื่น ๆ บนผิวฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยให้ฟันขาวสว่างขึ้นนั่นเอง วิธีการใช้แผ่นแปะฟันขาวก็ง่ายมาก นั่นคือ
นำแผ่นแปะฟันขาวมาติดลงบนฟัน ตามคำแนะนำในกล่องผลิตภัณฑ์
แปะทิ้งไว้ตามเวลาที่แนะนำ (ประมาณ 15 - 30 นาที)
** ข้อควรรู้: ระหว่างติดแผ่นแปะฟันขาวควรหลีกเลี่ยงการกินอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำส้ม ชา กาแฟ ฯลฯ เพราะกรดอาจทำให้ประสิทธิภาพในการฟอกฟันขาวลดลงได้
ดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า การสะสมของคราบพลัคและแบคทีเรียสามารถก่อให้เกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ และนำไปสู่ฟันเหลืองได้ ดังนั้น ควรดูแลช่องปากและฟันด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีเป็นประจำ นั่นคือ
แปรงฟันด้วยยาสีฟันสูตรฟันขาว คอลเกต อ๊อพติค ไวท์ โอทู ที่มีพลังแอคทีฟ ออกซิเจน ช่วยขจัดคราบฟันให้ฟันดูขาวสว่างขึ้น เพียงบีบยาสีฟันในปริมาณเทียบเท่ากับเมล็ดถั่วก็เพียงพอ
เลือกใช้ยาสีฟันม่วง คอลเกต อ๊อพติค ไวท์ เพอร์เพิล ที่ช่วยปรับโทนสีเหลืองบนผิวฟันทันทีหลังใช้* (*เพื่อผลลัพธ์ชั่วคราว)
แปรงฟันให้ทั่วพื้นที่ผิวฟันทั้งด้านนอกและด้านใน เป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาที
บ้วนยาสีฟันทิ้ง ก่อนกลั้วปากด้วยน้ำสะอาด
วิธีใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง
ใช้ไหมขัดฟัน 1 เส้น (ยาวประมาณ 18 นิ้ว)
พันปลายไหมด้านหนึ่งรอบนิ้วกลางของมือข้างหนึ่ง แล้วพันปลายไหมอีกด้านหนึ่งเข้ากับนิ้วหัวแม่มือของมือข้างเดียวกัน
ค่อย ๆ แทรกไหมขัดฟันระหว่างซอกฟันอย่างเบามือ (ระวังอย่าให้บาดเหงือก)
เลื่อนไหมขัดฟันขึ้นลงเบา ๆ ระหว่างผิวฟัน เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างตามซอกฟัน
** ข้อควรรู้: เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บของเหงือก ควรใช้ไหมขัดฟันส่วนที่ยังสะอาดทุกครั้งที่เลื่อนตำแหน่งการขัดระหว่างซี่ฟัน และอย่าลืมบ้วนน้ำลายทิ้งทุกครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของช่องปาก
เพราะการมีรอยยิ้มสวย สะอาด ดูมีสุขภาพดี เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดสดใส เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้เช่นกัน ด้วย 6 วิธีง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากจะช่วยดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ พร้อมให้คุณเผยฟันขาวสะอาดใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อย่าลืมติดตามสาระน่ารู้จากผู้เชี่ยวชาญของ คอลเกต และอัปเดตการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไปด้วยกัน