เรามักเคยได้ยินว่าหากมีอาการ เหงือกบวม เสียวฟัน เลือดออกตามไรฟัน สามารถ แก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี หรือการอมน้ำเกลือแก้เหงือกบวม แต่ความจริงแล้วทั้งสองวิธีเป็นเพียงการบรรเทาอาการเท่านั้น ไม่ใช่วิธีแก้ที่ถูกต้องในระยะยาวและดีที่สุด หากยังไม่ได้รักษาอย่างตรงจุด อาการเหงือกบวม เสียวฟัน เลือดออกตามไรฟัน ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกซ้ำๆ ทำให้สุขภาพช่องฟันของเราไม่แข็งแรง มารู้จักสาเหตุของอาการเหล่านี้ พร้อมเรียนรู้การเลือกยาสีฟันเกลือที่ดี ทำยังไงถึงจะตัดวงจรเหงือกเลือดออกได้

วิธีเลือกยาสีฟันเกลือ แก้ปัญหาตรงจุด ป้องกันเหงือกเลือดออก
อาการเหงือกเลือดออก เกิดจากอะไร?
เหงือกเลือดออก คือปัญหาช่องปากที่พบได้บ่อย มักเกิดจากการดูแลทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดคราบพลัคซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก เริ่มต้นจะเป็นฟิลม์บางๆ สะสมบริเวณฟันและร่องเหงือก โดยเราสามารถขจัดคราบพลัคได้ด้วยการแปรงฟันและขัดฟันทุกวัน แต่หากละเลยคราบพลัคที่สะสมอยู่ 2-3 วันจะเปลี่ยนสภาพเป็นหินปูนซึ่งยากต่อการขจัด โดยเฉพาะบริเวณร่องเหงือกซึ่งทำความสะอาดได้ยาก โดยคราบหินปูนจะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียต่างๆ อาจทำให้เกิดโรคปริทันต์ มีอาการเหงือกบวม เหงือกร่น เหงือกอักเสบ ปวดเหงือก ปวดฟัน เสียวฟัน มีกลิ่นปาก และอาจรุนแรงจนถึงขั้นเลือดออกตามไรฟันได้
นอกจากนี้ลักษะการดำเนินชีวิตบางอย่างยังเพิ่มปัจจัยเสี่ยง ให้สามารถเกิดอาการเหงือกบวม เลือดออกตามไรฟันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เที่ยวกลางคืน และผู้ที่มีโรคประจำตัว ตัวอย่างปัจจัยเสี่ยง เช่น
- การสูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- การใช้สารเสพติด
- ภาวะภูมิต้านทานลดลงเนื่องจากปัญหาลูคีเมีย ติดเชื้อ HIV/ปัญหาเอดส์ หรือภาวะอื่น ๆ
- การรับประทานยาบางชนิด
- การติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อรา
- ขาดสารอาหาร
- โรคเบาหวาน
- ผู้สูงอายุ
- ฮอร์โมนเปลี่ยน เช่นในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ มีรอบเดือน หรือใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน
หากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเหงือกอักเสบหรือปริทันต์อักเสบหรือไม่ จะได้รีบทำการรักษาที่จำเป็นต่อไป
ที่สุดของวิธีการดูแลช่องปากที่ดี ทำยังไงเมื่อเหงือกเลือดออก
หลายคนมักเลือกรักษาตัวเองด้วยการกินวิตามินซี และอมน้ำเกลือแก้เหงือกบวม แต่หลายครั้งมักพบว่าอาการเหล่านี้ยังเกิดขึ้นซ้ำๆ ไม่หายขาด เป็นเพราะเรายังไม่ได้แก้ปัญหาอย่างตรงจุด การอมน้ำเกลือแก้เหงือกบวมจะช่วยแค่ระงับอาการปวดชั่วคราวและฆ่าเชื้อแบคทีเรียภายนอกหินปูนเท่านั้น หรือการกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี จะช่วยแก้ปัญหาเลือดออกตามไรฟันสำหรับผู้ที่ขาดวิตามินซี แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการเหงือกเลือดออก มักเกิดจากดูแลช่องปากไม่ดีพอ จนเกิดหินปูนสะสม ต้นเหตุของปัญหาจึงไม่ได้ถูกรักษาอย่างแท้จริง
หากมีอาการของโรคปริทันต์ อย่างเหงือกบวม เหงือกร่น เหงือกอักเสบ ปวดเหงือก ปวดฟัน เสียวฟัน มีกลิ่นปาก เลือดออกตามไรฟัน ควรเข้ารับการรักษาจากทันตแพทย์ทันที โดยทันตแพทย์จะทำการขูดหินปูนตามฟันและร่องเหงือกออก นอกจากนี้ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันเหงือกเลือดออกอย่างตรงจุด เช่น วิธีการความสะอาดช่องปากที่ถูกต้อง โดยการขัดฟัน หรือการเลือกยาสีฟันเกลือสูตรที่เหมาะสมกับปัญหาช่องปากของแต่ละคน และควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากและขูดหินปูนทุก ๆ 6 – 12 เดือน
ตัดวงจรเหงือกเลือดออก ด้วยยาสีฟันคอลเกต สูตรเกลือที่คิดค้นมาโดยเฉพาะ
การเลือกยาสีฟันเกลือให้เหมาะสมกับปัญหาช่องปาก เป็นอีกวิธีการป้องกันเหงือกเลือดออกได้อย่างตรงจุด ยาสีฟัน คอลเกตเกลือมิเนอรัล 67% เป็นยาสีฟันเกลือสูตรเข้มข้นที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเกลือคิดมาเพื่อป้องกันอาการเหงือกเลือดออกโดยเฉพาะ ด้วยยาสีฟันเกลือลักษณะเนื้อทรายขาว ที่มีโซเดียมไบคาร์บอเนต ช่วยปลอบประโลมปัญหาสุขภาพเหงือก ขจัดคราบพลัคซึ่งเป็นสาเหตุของหินปูน ลดและป้องกันเหงือกเลือดออกขณะแปรงฟัน นอกจากนี้ยังช่วยให้เหงือกกระชับ ฟันแข็งแรง
โดยควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันคอลเกตเกลือมิเนอรัล 67% หลังมื้ออาหารและก่อนนอนเป็นประจำ หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ให้คุณดูแลช่องปากแบบมืออาชีพด้วยตัวเองได้ทุกวัน เพื่อสุขภาพเหงือกและฟันที่แข็งแรง
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม