ถึงเวลาเปลี่ยนแปรงสีฟัน เพื่อการดูแลรักษาเหงือกบวม เหงือกอักเสบ

ถึงเวลาเปลี่ยนแปรงสีฟันที่ออกแบบมาเพื่อดูแลสุขภาพเหงือก

เปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแบบขนนิ่มดีหรือไม่ ?

การเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแบบขนนิ่ม เพื่อถนอมเหงือก รักษาเหงือกบวม เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ก็มีข้อควรระวังไว้ นั่นคือ

ข้อดี การเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแบบขนนิ่มจะช่วยลดความเสี่ยงของเหงือกบวม เหงือกอักเสบลงได้

ข้อควรระวัง แปรงสีฟันที่ขนแปรงนิ่มอาจจะทำให้คุณต้องออกแรงกดเเปรงบริเวณนั้นมากขึ้น เพื่อให้แขนแปรงซอกซอนเข้าทำความสะอาดถึงซอกเหงือกซอกฟัน ซึ่งก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บที่เหงือกมากขึ้น

วิธีการที่เหมาะสมในการรักษาเหงือกบวม คือการเปลี่ยนแปรงสีฟันมาใช้แปรงที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลสุขภาพเหงือกโดยเฉพาะ อย่าง Colgate® Gentle Gum Expert ที่มีนวัตกรรมขนแปรงดูแลสุขภาพเหงือก ด้วยคุณสมบัติ

• ขนแปรงนุ่ม อ่อนโยนต่อเหงือก ช่วยนวดเหงือก

• ขนแปรงมากเป็นพิเศษถึง 6,700 เส้น ช่วยลดปัญหาสุขภาพเหงือกได้มากถึง 200%

• ขนแปรงต่างระดับ ขนแปรงรอบนอกยาวกว่าด้านใน เพื่อให้แปรงโดนทั้งเหงือกและฟันในเวลาเดียวกัน

• ปลายขนเเปรงเรียวเเหลม 0.01 มม. ซอกซอนร่องเหงือกได้ดีขึ้น 6 เท่า

ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยแค่ไหน ?

เมื่อเราใช้แปรงสีฟันไปเรื่อยๆ ขนแปรงจะเสื่อมสภาพ และมีแบคทีเรียสะสมที่ขนแปรง ทันตแพทย์จึงแนะนำให้คุณควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน แม้ว่าแปรงจะยังไม่ชำรุดก็ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันด้ามใหม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน โดยเฉพาะเมื่อต้องการดูแลรักษาเหงือกบวม เหงือกอักเสบ 

หรือเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทันที เมื่อรู้สึกว่า

• ขนแปรงแข็งเกินไป รู้สึกเจ็บขณะแปรง
• ขนแปรงทิ่มเหงือก
• ขนแปรงบานออก ไม่เป็นรูปทรง
• ขนาดของแปรงสีฟัน ไม่พอดีกับช่องปาก

นอกจากเปลี่ยนแปรงสีฟันแล้ว ยังมีวิธีที่คุณสามารถป้องกันรักษาเหงือกบวม เหงือกอักเสบได้ด้วยตัวเอง เช่น

• หยุดพฤติกรรมทำร้ายช่องปาก เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
• ใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์
• บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ ช่วยลดอาการเหงือกบวมได้
• ประคบด้วยน้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำเย็น เพื่อบรรเทาอาการปวด

เหงือกบวม เหงือกอักเสบแค่ไหนต้องไปพบแพทย์?

อาการต่างๆ ต่อไปนี้ บ่งบอกว่า คุณควรต้องรักษาเหงือกบวม เหงือกอักเสบ โดยด่วนนั่นคือ

• มีเลือดออกขณะรับประทานอาหาร
• มีเลือดออกขณะแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟัน
• สีของเหงือกเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดง
• เหงือกแน่น แข็งกว่าปกติ
• เหงือกนิ่ม กดแล้วยวบ
• เหงือกร่น มีร่อง ไม่ติดกับฟัน
• มีกลิ่นปาก
• มีหนองไหลในร่องเหงือก
• ฟันโยกเวลาเคี้ยว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเริ่มมีหนองไหล หรือฟันโยก ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการรักษาเหงือกบวม เหงือกอักเสบ ไม่ให้อาการลุกลาม รุนแรง ไปจนถึงขั้นสูญเสียฟันได้ในที่สุด