พ่อแม่ทุกคนคงไม่รู้จะตอบอย่างไร ถ้าลูกน้อยถามว่า "เทพพิทักษ์ฟันน้ำนมมีจริงไหม" เช่นเดียวกับการที่ลูกน้อยถามถึงซานตาคลอส และกระต่ายอีสเตอร์ คุณจะทำอย่างไรหากลูกน้อยเริ่มสงสัย
เด็กต้องการคำตอบแบบไหน
เขาอยากได้ข้อเท็จจริงหรืออยากจะเชื่อนิทานแบบนี้ต่อไปล่ะ ลองถามลูกน้อยกลับว่า "หนูถามทำไมจ๊ะ" หรือ "แล้วหนูคิดว่ายังไงจ๊ะ" แล้วให้ลูกอธิบายต่อว่าทำไมเขาจึงตอบเช่นนั้น ถ้าลูกพร้อมจะรับฟังข้อเท็จจริง ก็อธิบายให้เขาฟัง แต่ถ้าเขายังอยากเชื่อนิทานต่อไป ก็ตอบเพียงว่าคุณเองก็เชื่อในเวทมนตร์ของเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมเหมือนกัน
อย่าลืมว่าคำตอบควรจะเหมาะสมกับวัยของลูกด้วย เด็กที่โรงเรียนบางคนซึ่งไม่เชื่อเรื่องเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมอาจทำให้พวกเขาเถียงกันได้ ดังนั้นคุณควรจะชั่งใจดูว่าจะให้ลูกน้อยเชื่อเรื่องนี้ต่อไปจนถึงอายุเท่าไร
ค่อยเป็นค่อยไป
แม้ว่าลูกของคุณจะค่อนข้างรู้ความจริงแล้ว แต่ถ้าพบว่าพ่อแม่เองคือเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมก็อาจทำให้เด็กสะเทือนใจได้ อธิบายให้ลูกน้อยเข้าใจว่านี่เป็นความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมานานแล้ว ให้เขาได้จดจำความสนุกขณะดึงฟันน้ำนมออกมาใส่ไว้ใต้หมอน และความตื่นเต้นตอนเช้าเมื่อเห็นของขวัญมาแทนที่ ที่พ่อแม่เล่าเรื่องเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมให้เขาฟังก็เพราะอยากเห็นเขามีความสุข
เตรียมรับมือให้ดี
เด็กบางคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่ได้รู้ว่าความจริงแล้วเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมก็คือพ่อแม่นั่นเอง ที่อุตส่าห์รอจนดึกดื่นเพื่อแอบเอาฟันน้ำนมใต้หมอนไปแล้วนำเงินมาวางไว้แทนที่ แต่เด็กบางคนอาจร้องไห้ที่สูญเสียความไร้เดียงสาวัยเด็กไป บางคนอาจโกรธที่พ่อแม่ทำให้เข้าใจผิดมาตลอด
ดังนั้นคุณควรจะเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อลูกรู้ความจริง อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าความจริงนี้ต้องเก็บเป็นความลับเพื่อให้น้องๆ และเด็กคนอื่นๆ ได้สนุกกับความเชื่อนี้ต่อไป เวทมนตร์ของเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมควรดำเนินต่อ เพราะอย่างน้อยลูกก็จะได้เงินมาแทนที่ใต้หมอนต่อไปเรื่อยๆ ไงล่ะจ้ะ