ชายในเสื้อลายสก็อตกับสีหน้าเครียดจากอาการปวดฟัน
Badge field

ฟันคุดคืออะไร ทำไมต้องผ่าฟันคุด และบรรเทาอาการปวดฟันคุดได้อย่างไร?

Published date field
Published date field อัพเดทล่าสุด
Published date field

ตรวจสอบทางการแพทย์โดย Colgate Global Scientific Communication

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณจะจดจำความรู้สึกตอนฟันแท้ขึ้นสมัยเด็กๆ ไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่า หลายคนจะจดจำอาการปวดฟันคุดได้อย่างดี ช่วงเวลาที่ฟันคุดขึ้นคุณจะรู้สึกเจ็บปวดและไม่สบายช่องปากอย่างมาก เราชวนมาคุณทำความรู้จักกับฟันคุดแบบ 101 ตั้งแต่ฟันคุดคืออะไร? อาการปวดฟันคุดเกิดจากอะไร? จำเป็นต้องผ่าฟันคุดหรือไม่? ผ่าฟันคุดเจ็บไหม? รวมถึงฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า? พร้อมวิธีบรรเทาอาการปวดฟันคุดก่อนไปพบทันตแพทย์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจอาการปวดฟันคุดและรับมือเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง

ฟันคุดคืออะไร? ทำความเข้าใจเรื่องฟันคุดแบบ 101

"ฟันคุด" (Impacted Tooth หรือ Wisdom Tooth) คือฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ โดยอาจจะโผล่ขึ้นมาเพียงบางส่วนหรือไม่โผล่ขึ้นมาเลยก็ได้ ส่วนใหญ่ฟันคุดมักจะเกิดกับฟันกรามซี่สุดท้าย หรือที่ทางการแพทย์เรียกกันว่า “ฟันกรามซี่ที่สาม” สาเหตุที่ทำให้เกิดฟันคุดนั้นมีหลายปัจจัย เช่น ขนาดขากรรไกรเล็กเกินไป ฟันมีขนาดใหญ่ หรือมีฟันซี่อื่นๆ ขวางอยู่ ทำให้ไม่มีที่ว่างเพียงพอสำหรับฟันซี่ในสุดที่จะงอกออกมาได้อย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ฟันคุดงอกออกมาในทิศทางที่ผิดปกติหรือฝังอยู่ใต้เหงือก ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม แดง หรือติดเชื้อได้อีกด้วย

ส่วนคนที่สงสัยว่า ฟันคุดขึ้นตอนอายุเท่าไหร่? โดยปกติฟันคุดจะขึ้นเมื่อเราอายุประมาณ 17-21 ปี บางคนอาจจะขึ้นช้าหรือเร็วกว่านี้และฟันคุดอาจจะไม่ขึ้นเลยก็ได้ ฟันคุดมีด้วยกัน 4 ซี่และอยู่ด้านในสุดของช่องปากทั้งด้านบนและด้านล่าง เวลาที่ฟันคุดงอกจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือที่เรียกว่า “ปวดฟันคุด” นอกจากจะทำให้เจ็บปวด แล้วฟันคุดยังอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น การติดเชื้อที่ฟันคุด หรือเป็นซีสต์ (ถุงน้ำ) ดังนั้น เมื่อคุณเป็นฟันคุดควรรีบไปทำการรักษากับทันตแพทย์จะปลอดภัยกว่า

ผ่าฟันคุดเจ็บไหม และเมื่อไหร่ควรผ่าฟันคุด?

หลายคนมักจะรู้สึกกังวลใจเมื่อต้องเข้ารับการผ่าฟันคุด หรือถอนฟันคุด เพราะกลัวว่าผ่าฟันคุดแล้วจะเจ็บมาก หรือระบมจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่จริงๆ แล้วก่อนผ่าฟันคุดทันตแพทย์จะฉีดยาชาให้คุณรู้สึกชาบริเวณที่ทำการผ่าตัด ส่งผลให้ระหว่างการผ่าตัดคุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ แต่หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว คุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวด บวม แดง หรือมีอาการชาบริเวณแผลผ่าตัดได้ อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ระหว่างนั้นทันตแพทย์จะให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการหลังผ่าฟันคุด และช่วยให้คุณฟื้นฟูสุขภาพช่องปากได้อย่างรวดเร็ว 

ส่วนการตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรผ่าฟันคุด? โดยทั่วไปทันตแพทย์จะพิจารณาจากสภาพของฟันคุดของคุณ เพื่อวางแผนการรักษาฟันคุดที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น

  • ตำแหน่งของฟันคุด: ถ้าฟันคุดงอกออกมาปกติและไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ อาจไม่จำเป็นต้องผ่า แต่ถ้าฟันคุดฝังอยู่ใต้เหงือก หรืองอกออกมาในทิศทางที่ผิดปกติ ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาให้ผ่าออก

  • อาการปวด: หากคุณมีอาการปวด บวม แดง หรือติดเชื้อบริเวณฟันคุด แสดงว่าฟันคุดกำลังก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ดังนั้น ควรผ่าฟันคุดออกโดยเร็วที่สุด

  • ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอื่นๆ: ฟันคุดที่ฝังอยู่ใต้เหงือกอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น ถุงน้ำที่รากฟัน ฟันผุ หรือโรคเหงือกอักเสบ ดังนั้น การผ่าฟันคุดก่อนที่ปัญหาจะรุนแรงขึ้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้

  • อายุ: การผ่าฟันคุดในช่วงอายุ 18-25 ปี มักจะทำได้ง่ายและฟื้นตัวได้เร็วกว่า 

จำเป็นต้อง "รักษาฟันคุด" หรือไม่? ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าฟันคุดไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดก็ปล่อยไว้แบบนั้นได้ไหม? แล้วฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า? โดยปกติแล้ว ถ้าฟันคุดงอกออกมาปกติและไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาไม่ผ่าฟันคุด แต่ส่วนใหญ่หากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากในอนาคตได้ เช่น

  • การติดเชื้อ: ฟันคุดที่โผล่ขึ้นมาเพียงบางส่วน มักเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อโรคในช่องปาก ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง และเป็นหนองได้

  • ฟันผุ: ฟันคุดที่ขึ้นไม่สมบูรณ์ส่งผลให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ยาก มีโอกาสที่จะเกิดฟันผุสูง และอาจลุกลามไปยังฟันซี่ข้างเคียงได้อีกด้วย

  • ซีสต์ (ถุงน้ำ) ในกระดูกขากรรไกร: ฟันคุดที่ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรอาจทำให้เกิดถุงน้ำได้ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก หรือแม้กระทั่งใบหน้าของคุณในระยะยาว

  • การเรียงตัวของฟันผิดปกติ: ฟันคุดอาจจะดันฟันซี่อื่นๆ ทำให้ฟันเคลื่อนที่และเกิดการเรียงตัวที่ผิดปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการสบฟันและการบดเคี้ยวอาหารได้

การพิจารณาผ่าฟันคุดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ และควรปรึกษาทันตแพทย์ทันทีหากคุณพบความผิดในช่องปาก หรือมีอาการปวดฟันคุดรุนแรง ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด อาหารเย็นจัดหรือร้อนจัด และไม่ควรเคี้ยวอาหารแข็งๆ รวมถึงควรทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี

ปวดฟันคุด ทำยังไงดี: 3 วิธีบรรเทาอาการปวดด้วยตัวเอง

สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับอาการปวดฟันคุดจนขาดสมาธิในการเรียนการทำงาน บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เรามีคำแนะนำดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม ที่จะช่วยให้คุณรับมือกับอาการปวดฟันคุดเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง นั่นคือ

  • การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ: วิธีนี้สามารถบรรเทาอาการปวดฟันและปวดฟันคุดได้ วิธีง่ายๆ คือการผสมน้ำอุ่นหนึ่งแก้วกับเกลือป่น 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน จากนั้นใช้น้ำเกลือกลั้วปากประมาณ 30-60 วินาที แล้วบ้วนทิ้ง และสามารถทำซ้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

  • รับประทานยาแก้ปวด: คุณสามารถรับประทาน “ยาเบนโซเคน” (Benzocaine) หรือ “ยาชาเฉพาะที่” ที่ใช้ลดอาการเจ็บปวดได้อย่างดี เช่น ปวดแผลในปาก ปวดฟัน ปวดเหงือก อาการปวดของหูชั้นกลาง อาการคันจากแพ้พืชบางชนิด เป็นต้น คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป และควรรับประทานภายใต้คำแนะนำของเภสัชกร วิธีที่ได้ผลดีคือ ใช้ผ้าแห้งสะอาดซับบริเวณเหงือกที่คุณต้องการทายาให้แห้งเสียก่อน จากนั้นก็ทายาลงไปตามต้องการ คุณสามารถใช้ทาได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ

  • น้ำมันกานพลู: กานพลูเป็นสมุนไพรไทยที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ เนื่องจากกานพลูและน้ำมันกานพลูมีคุณสมบัติเด่นในการลดภาวะเลือดออกตามไรฟัน และสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ด้วยวิธีธรรมชาติ วิธีใช้คือให้นำกานพลูทั้งก้าน (อย่าบดหรือหั่น) สอดเข้าไปในปากบริเวณที่ปวดฟันคุด ทิ้งให้กานพลูอยู่บริเวณที่ปวดจนกว่าจะรู้สึกชา หากคุณมีน้ำมันกานพลูก็สามารถใช้ได้เช่นกัน โดยให้ใช้ก้านสำลีสะอาดชุบน้ำมันกานพลูแล้วทาบริเวณเหงือกที่ปวดเบาๆ หรือใช้ก้อนสำลีสะอาดชุดน้ำมันกานพลูแล้วอุดไว้ที่บริเวณเหงือกที่ปวดจนรู้สึกชา น้ำมันกานพลูจะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันคุดได้อย่างดี

หากอาการปวดฟันคุดยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวดมาก บวม และแดง ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างทันท่วงที 

ที่สำคัญอย่าลืมแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟัน (dental floss) ทำความสะอาดซอกฟันหลังรับประทานอาหาร และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมจากคอลเกต เพื่อสุขภาพปากและฟันที่ดีของคุณและทุกคนในครอบครัว