ใครที่ผ่านประสบการณ์ฟันผุถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาหรือถอนฟันทิ้งคงไม่อยากกลับไปมีประสบการณ์นั้นอีกแน่นอน นอกจากอาการปวดฟันที่ทุกข์ทรมานแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำและสามารถทำได้คือ การรักษาสุขภาพช่องปากให้สะอาดและมีสุขภาพดีอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียทำลายผิวเคลือบฟันจนกลายเป็นปัญหาฟันผุ
ขั้นตอนแรกคือให้ความสำคัญเรื่องอาหารที่คุณรับประทาน แบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากใช้แป้งและน้ำตาลเป็นอาหารเพื่อการเจริญเติบโตและขยายปริมาณ ในระหว่างนี้แบคทีเรียก็จะผลิตกรดออกมาแล้วเข้าทำลายผิวเคลือบฟันให้ค่อย ๆ กร่อนลงทีละน้อย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งหรือน้ำตาลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเปลี่ยนมาประทานอาหารประเภท ผัก ผลไม้และนมแทน กากใยจากผักและผลไม้จะช่วยกกระตุ้นการหลั่งน้ำลายในปากเพื่อช่วยชะล้างจุลินทรีย์ทออกไป ส่วนนม นอกจากจะมีแคลเซียมสูงที่ช่วยเสริมให้เคลือบฟันแข็งแรงแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นด่างในขณะที่แบคทีเรียส่วนใหญ่สร้างภาวะที่เป็นกรด นมจึงช่วยเพิ่มความสมดุลหรือปรับค่าความเป็นกลางในช่องปากได้นั่นเอง
นอกจากเรื่องอาหารแล้ว ควรให้ความสำคัญในเรื่องการทำความสะอาดช่องปากด้วย ทันตแพทย์แนะนำให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพื่อป้องกันปัญหาฟันผุและปัญหาเหงือก สำหรับผู้ที่มีปัญหาอาการฟันผุในช่วงเริ่มแรก ควรปรึกษาทันตแพทย์เรื่องการใช้ยาสีฟันหรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมฟลูออไรด์ที่มากกว่าปรกติ เพื่อนำแร่ธาตุที่จำเป็นกลับคืนสู่ฟันของคุณเป็นต้น
เรื่องสำคัญอีกข้อคือ
การพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสภาพช่องปากอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อหาดูว่าคุณมีฟันผุหรือไม่ ถ้ามีทันตแพทย์จะรักษาเบื้องต้นด้วยการอุดฟันก่อนที่จะลุกลามหรือเรื้อรังจนต้องถอนฟันทิ้ง หรือถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับปัญหาเหงือกซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในช่องปากที่ร้ายแรงด้านอื่นๆ การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาแน่นอน
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
ฟันผุ