เหงือกร่นเป็นภาวะที่รากฟันถูกเผยออกมาให้เห็น ซึ่งเสี่ยงให้เกิดฟันผุมากขึ้น และหากไม่ได้รับการรักษาอาจต้องสูญเสียฟันในที่สุด เมื่อคุณรับประทานอาหารที่ร้อน เย็น หรือเปรี้ยวจัด อาจมีอาการเสียวฟันบริเวณรากฟันที่ถูกเผยนี้ ทำให้รับประทานอาหารไม่อร่อย
เหงือกร่น: วิธีรักษา
และป้องกัน
ตรวจสอบทางการแพทย์โดย Colgate Global Scientific Communication
นับเป็นเรื่องดีที่การดูแลสุขภาพช่องปากและวงการทันตแพทย์ในปัจจุบันได้พ้ฒนาและช่วยลดปัญหาเหงือกร่นลงได้มาก แม้กระทั่งในผู้สูงอายุ วิธีการป้องกันและรักษาเหงือกร่นก็ทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
การดูแลให้เหงือกมีสุขภาพดี
การรักษาให้เหงือกคงสุขภาพดีเป็นวิธีดีที่สุดในการลดสภาวะเหงือกร่น ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง คู่กับการใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนเป็นประจำก็เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้เหงือกร่น
แต่สำหรับบางคนก็ซับซ้อนกว่านั้น เนื่องจากพันธุกรรมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เหงือกร่นได้ แม้ว่าจะดูแลสุขภาพช่องปากดีที่สุดแล้ว คุณอาจกัดฟันหรือมีฟันที่เรียงตัวไม่ดี จนก่อให้เกิดคราบจุลินทรีย์และหินปูนสะสมบริเวณขอบเหงือกได้ง่าย แล้วทำให้เหงือกร่นมากกว่าคนอื่นๆ ส่วนการแปรงฟันที่แรงเกินไปก็ส่งผลให้เหงือกร่นได้อีกเช่นกัน
วิธีแก้เหงือกร่น
ขั้นแรกในการรักษาคือค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเหงือกร่น เพื่อทำการลดหรือกำจัดปัจจัยนั้นออกหากเป็นไปได้ เช่น ปรับฟันเกให้ตั้งตรง เลิกสูบบุหรี่ร่วมกับการดูแลสุขภาพช่องปาก
เมื่อพบสาเหตุทั้งหมด ทันตแพทย์จะให้การรักษาที่แตกต่างกันเพื่อปรับสภาพเหงือกให้ดีขึ้น ด้วยวิธีเหล่านี้
- การเกลารากฟัน ทันตแพทย์อาจใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และหินปูนที่สะสมบนผิวรากฟันบริเวณเหงือกร่น ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเกลารากฟัน
- การปลูกเหงือก คือการนำเนื้อเยื่อเหงือกที่สุขภาพดีจากเพดานปากของผู้ป่วยหรือเนื้อเยื่อเหงือกสังเคราะห์มาปลูกถ่ายบริเวณที่เหงือกร่น ทันตแพทย์อาจแนะนำให้รักษากับทันตแพทย์เฉพาะทางด้านปริทันต์ซึ่งเป็นผู้ผ่าตัดศัลกรรมตกแต่งปริทันต์เพื่อรักษาเหงือกและกระดูกเบ้าฟัน
- การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ในคนไข้บางรายที่มีเหงือกร่นอย่างรุนแรงจนกระดูกถูกทำลายด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยีทางทันตกรรมได้ช่วยให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปริทันต์สามารถทำการผ่าตัด เพื่อปลูกถ่ายชีววัสดุให้เกิดเนื้อเยื่อและกระดูกใหม่ขึ้นมาทดแทนบริเวณที่สูญเสียกระดูก และเนื้อเยื่อเหงือกที่ถูกสร้างขึ้นจะทำการยึดฟันในบริเวณนั้นเป็นจำนวนหนึ่งซี่หรือมากกว่านั้น
สภาวะเหงือกร่นอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และอาจจะใช้เวลานานเป็นปี จึงทำให้ยากที่จะสังเกต หากไม่มีอาการปวดหรือเสียวฟันร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม คุณควรรีบพบทันตแพทย์ หากสังเกตเห็นว่าฟันยาวขึ้นหรือช่องว่างระหว่างคอฟันกว้างขึ้น เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของเหงือกร่นและควรเข้ารับการรักษา