ขั้นแรกในการรักษาคือค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเหงือกร่น เพื่อทำการลดหรือกำจัดปัจจัยนั้นออกหากเป็นไปได้ เช่น ปรับฟันเกให้ตั้งตรง เลิกสูบบุหรี่ร่วมกับการดูแลสุขภาพช่องปาก
เมื่อพบสาเหตุทั้งหมด ทันตแพทย์จะให้การรักษาที่แตกต่างกันเพื่อปรับสภาพเหงือกให้ดีขึ้น ด้วยวิธีเหล่านี้
- การเกลารากฟัน ทันตแพทย์อาจใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และหินปูนที่สะสมบนผิวรากฟันบริเวณเหงือกร่น ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเกลารากฟัน
- การปลูกเหงือก คือการนำเนื้อเยื่อเหงือกที่สุขภาพดีจากเพดานปากของผู้ป่วยหรือเนื้อเยื่อเหงือกสังเคราะห์มาปลูกถ่ายบริเวณที่เหงือกร่น ทันตแพทย์อาจแนะนำให้รักษากับทันตแพทย์เฉพาะทางด้านปริทันต์ซึ่งเป็นผู้ผ่าตัดศัลกรรมตกแต่งปริทันต์เพื่อรักษาเหงือกและกระดูกเบ้าฟัน
- การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ในคนไข้บางรายที่มีเหงือกร่นอย่างรุนแรงจนกระดูกถูกทำลายด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยีทางทันตกรรมได้ช่วยให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปริทันต์สามารถทำการผ่าตัด เพื่อปลูกถ่ายชีววัสดุให้เกิดเนื้อเยื่อและกระดูกใหม่ขึ้นมาทดแทนบริเวณที่สูญเสียกระดูก และเนื้อเยื่อเหงือกที่ถูกสร้างขึ้นจะทำการยึดฟันในบริเวณนั้นเป็นจำนวนหนึ่งซี่หรือมากกว่านั้น
สภาวะเหงือกร่นอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และอาจจะใช้เวลานานเป็นปี จึงทำให้ยากที่จะสังเกต หากไม่มีอาการปวดหรือเสียวฟันร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม คุณควรรีบพบทันตแพทย์ หากสังเกตเห็นว่าฟันยาวขึ้นหรือช่องว่างระหว่างคอฟันกว้างขึ้น เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของเหงือกร่นและควรเข้ารับการรักษา