นับเป็นเรื่องดีที่การดูแลสุขภาพช่องปากและวงการทันตแพทย์ในปัจจุบันได้พ้ฒนาและช่วยลดปัญหาเหงือกร่นลงได้มาก แม้กระทั่งในผู้สูงอายุ วิธีการป้องกันและรักษาเหงือกร่นก็ทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

การดูแลให้เหงือกมีสุขภาพดี

การรักษาให้เหงือกคงสุขภาพดีเป็นวิธีดีที่สุดในการลดสภาวะเหงือกร่น ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง คู่กับการใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนเป็นประจำก็เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้เหงือกร่น

แต่สำหรับบางคนก็ซับซ้อนกว่านั้น เนื่องจากพันธุกรรมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เหงือกร่นได้ แม้ว่าจะดูแลสุขภาพช่องปากดีที่สุดแล้ว คุณอาจกัดฟันหรือมีฟันที่เรียงตัวไม่ดี จนก่อให้เกิดคราบจุลินทรีย์และหินปูนสะสมบริเวณขอบเหงือกได้ง่าย แล้วทำให้เหงือกร่นมากกว่าคนอื่นๆ ส่วนการแปรงฟันที่แรงเกินไปก็ส่งผลให้เหงือกร่นได้อีกเช่นกัน

วิธีแก้เหงือกร่น

ขั้นแรกในการรักษาคือค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเหงือกร่น เพื่อทำการลดหรือกำจัดปัจจัยนั้นออกหากเป็นไปได้ เช่น ปรับฟันเกให้ตั้งตรง เลิกสูบบุหรี่ร่วมกับการดูแลสุขภาพช่องปาก

เมื่อพบสาเหตุทั้งหมด ทันตแพทย์จะให้การรักษาที่แตกต่างกันเพื่อปรับสภาพเหงือกให้ดีขึ้น ด้วยวิธีเหล่านี้

  • การเกลารากฟัน ทันตแพทย์อาจใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และหินปูนที่สะสมบนผิวรากฟันบริเวณเหงือกร่น ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเกลารากฟัน

  • การปลูกเหงือก คือการนำเนื้อเยื่อเหงือกที่สุขภาพดีจากเพดานปากของผู้ป่วยหรือเนื้อเยื่อเหงือกสังเคราะห์มาปลูกถ่ายบริเวณที่เหงือกร่น ทันตแพทย์อาจแนะนำให้รักษากับทันตแพทย์เฉพาะทางด้านปริทันต์ซึ่งเป็นผู้ผ่าตัดศัลกรรมตกแต่งปริทันต์เพื่อรักษาเหงือกและกระดูกเบ้าฟัน

  • การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ในคนไข้บางรายที่มีเหงือกร่นอย่างรุนแรงจนกระดูกถูกทำลายด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยีทางทันตกรรมได้ช่วยให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปริทันต์สามารถทำการผ่าตัด เพื่อปลูกถ่ายชีววัสดุให้เกิดเนื้อเยื่อและกระดูกใหม่ขึ้นมาทดแทนบริเวณที่สูญเสียกระดูก และเนื้อเยื่อเหงือกที่ถูกสร้างขึ้นจะทำการยึดฟันในบริเวณนั้นเป็นจำนวนหนึ่งซี่หรือมากกว่านั้น

สภาวะเหงือกร่นอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และอาจจะใช้เวลานานเป็นปี จึงทำให้ยากที่จะสังเกต หากไม่มีอาการปวดหรือเสียวฟันร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม คุณควรรีบพบทันตแพทย์ หากสังเกตเห็นว่าฟันยาวขึ้นหรือช่องว่างระหว่างคอฟันกว้างขึ้น เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของเหงือกร่นและควรเข้ารับการรักษา

 

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

แบบทดสอบเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก

อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มของคุณ

ทำแบบประเมินสุขภาพช่องปากของเราเพื่อให้กิจวัตรการดูแลช่องปากของคุณเกิดประโยชน์มากที่สุด

แบบทดสอบเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก

อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มของคุณ

ทำแบบประเมินสุขภาพช่องปากของเราเพื่อให้กิจวัตรการดูแลช่องปากของคุณเกิดประโยชน์มากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหงือกร่นสามารถงอกใหม่ได้หรือไม่?

ปัญหาสุขภาพเหงือก

เหงือกร่นสามารถงอกใหม่ได้หรือไม่?

เหงือกร่นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การแปรงฟันที่แรงเกินไปไปจนถึงการบดฟันของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เหงือกร่นและวิธีการรักษาได้ที่นี่

ลดคราบแบคทีเรียและป้องกันเหงือกอักเสบ ด้วยยาสีฟันรักษาโรคเหงือก

ปัญหาสุขภาพเหงือก

ลดคราบแบคทีเรียและป้องกันเหงือกอักเสบ ด้วยยาสีฟันรักษาโรคเหงือก

ดูแลสุขภาพเหงือกด้วยยาสีฟันรักษาเหงือกที่ช่วยลดการสะสมของคราบแบคทีเรีย ป้องกันเหงือกอักเสบ พร้อมคำแนะนำการดูแลช่องปากอย่างครบถ้วนจากคอลเกต!

สาเหตุและอาการเหงือกบวม เหงือกอักเสบ พร้อมวิธีป้องกันและรักษาก่อนพบแพทย์

ปัญหาสุขภาพเหงือก

สาเหตุและอาการเหงือกบวม เหงือกอักเสบ พร้อมวิธีป้องกันและรักษาก่อนพบแพทย์

ทำความเข้าใจอาการเหงือกบวมและเหงือกอักเสบ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิด เช่น การแปรงฟันแรง พร้อมวิธีป้องกันและรักษาเพื่อสุขภาพเหงือกที่แข็งแรง อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้

เปิดใช้งานคุกกี้เพื่อดูเนื้อหานี้