143921923
Badge field

การเลือกทันตแพทย์

Published date field

วิธีเลือกทันตแพทย์ 
จุดเริ่มต้นในการเลือกทันตแพทย์คือ การสอบถามจากบุคคลที่เราเชื่อใจ อาจจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เภสัชกร หรือหมอประจำครอบครัว โดยถามว่าพวกเขาไปหาทันตแพทย์ของเขามาเป็นเวลาเท่าใด มีความสบายใจเวลาถามคำถามมากน้อยเพียงใด ทันตแพทย์ประเภทใดที่เขาพบ (ทั่วไปหรือเฉพาะทาง) เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องหาทันตแพทย์ที่เรารู้สึกสบายใจเวลาไปพบ

วิธีอื่นๆ ในการเลือกทันตแพทย์:

  • ปรึกษากับสมาคมทันตกรรมในพื้นที่ของคุณ เพื่อดูรายชื่อของทันตแพทย์ โดยสามารถหาเบอร์โทรศัพท์ของสมาคมทันตกรรมได้จากสมุดหน้าเหลือง ภายใต้ "ทันตแพทย์"
  • การค้นคว้าออนไลน์เพื่อหาทันตแพทย์ในพื้นที่ใกล้บ้านคุณ ปัจจุบันมีทันตแพทย์จำนวนมากขึ้นที่มีเว็บไซต์ของตนเองเพื่ออธิบายวิธีการและขั้นตอนการรักษา
  • คลิก ที่นี่ เพื่อหาทันตแพทย์

ทันตแพทย์ประเภทไหนที่เราควรจะหา 
ทันตแพทย์ทั่วไปจะเรียนมาเพื่อทำการรักษาทั่วไปได้ทุกอย่าง ถ้าคุณมีปัญหาที่ผิดปกติ ทันตแพทย์ทั่วไปจะแนะนำคุณยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางดังต่อไปนี้:

  • ทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก มีความเชี่ยวชาญในทันตกรรมสำหรับเด็ก
  • ทันตแพทย์เฉพาะทางรักษารากฟัน มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโพรงประสาทฟันและรากฟัน (ทันตแพทย์ทั่วไปหลายๆ คนก็สามารถรักษารากฟันได้เช่นกัน)
  • ทันตแพทย์เฉพาะทางใส่ฟัน มีความเชี่ยวชาญในการครอบฟัน การเชื่อมต่อฟันและการทำฟันปลอม
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทันตกรรม ใช้กระบวนการทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัย โรคในช่องปาก นอกจากนี้ยังมีความชำนาญในด้านนิติทันตวิทยา
  • ศัลยกรรมช่องปาก เป็นศัลยแพทย์สำหรับการผ่าตัดซีสต์ เนื้องอก และฟัน ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องขากรรไกร เช่น ข้อต่อขากรรไกรผิดปกติ โดยใช้วิธีเดียวกันกับศัลยกรรมพลาสติก เพื่อรักษาปัญหาด้านความงามของหน้าและขากรรไกร
  • ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน มีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขความผิดปกติของการเรียงตัวของฟัน โดยใช้เครื่องมือจัดฟันต่างๆ เพื่อเลื่อนฟันในอยู่ในจุดที่ดีขึ้น
  • ทันตแพทย์เฉพาะทางโรคเหงือก มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและรักษาโรคเหงือก

เราจะเป็นทันตแพทย์ได้อย่างไร 
ทันตแพทย์ทั่วไปจะจบ D.D.S. (Doctor of Dental Surgery) หรือ D.M.D. (Doctor of Dental Medicine) ขึ้นอยู่กับว่าจบจากมหาวิทยาลัยใด ซึ่งทั้งสองปริญญานี้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน คือ 4 ปีในการเรียนระดับปริญญาตรีสำหรับการฝึกทั่วไป บวกกับ 2 ปีในการเรียนระดับสูงเพื่อศึกษาเฉพาะทาง

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพช่องปากทั่วไป ไม่ได้ใช้เพื่อแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับอาการหรือการรักษาทางการแพทย์ โปรดขอคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสม